(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.43 ทรงตัวจากวานนี้ แต่แนวโน้มอ่อนค่าตามหยวน นลท.ยังจับตาประเด็นสงครามการค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 24, 2018 14:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.43 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น วานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.43/46 บาท/ดอลลาร์

"ดูแล้วเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อตามสกุลหยวนที่ยังคงอ่อนค่าจากประเด็นการกีดกันทางการค้า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า แนวต้านแรกจะอยู่ที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ แนวต้านถัดไป 33.60 บาท/ดอลลาร์ ส่วนแนวรับ สำคัญที่ 33.40 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (23 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.41106% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.46440%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 33.4533 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.19 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 110.99 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1694 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 1.1690 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.3490 บาท/
ดอลลาร์
  • นายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ประธานสมาคมตรา
สารหนี้ และอดีตรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ควรประเมินการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายใหม่
หลังจากที่ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวได้สูงถึง 4.8% ซึ่งทำให้
หลายหน่วยงานได้ปรับเพิ่มอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ยังเติบโต
ได้อย่างต่อเนื่อง
  • ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังนี้ การดำเนินธุรกิจของธนาคารจะยังคงยึดแนวทางการเติบโต
อย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน ตามที่ธนาคารได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยการเติบโตของสินเชื่อก็เป็นไปตามทิศทางที่วางไว้
และยังคงเป้าหมายสินเชื่อปีนี้เติบโตที่ 6-7% ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) น่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในไตรมาส 2 ซึ่งมี
NPL Gross อยู่ที่ระดับ 4.52% จากสิ้นปีก่อนที่ 4.19% ขณะที่ NPL Net อยู่ที่ระดับ 1.88%
  • "พาณิชย์" ถกคณะทำงานเตรียมการเข้าร่วม CPTPP ครั้งที่ 2 ติดตามความคืบหน้าจาก 25 หน่วยงาน เดือน ส.ค.
นี้ พร้อมจัดสัมมนาใหญ่ ระดมความเห็นจากทุกภาคส่วน และเดินสายลงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อรับฟังความคิดเห็น ยันประเด็นที่มีข้อกังวล
จะพิจารณาด้วยความรอบคอบ
  • แบงก์พาณิชย์-เอสเอฟไอ16 แห่ง เปิดบัญชีเงินฝากพื้นฐาน ฟรีทุกค่าธรรมเนียม ไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำ ไม่มีค่ารักษา
บัญชี ให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการรัฐ และผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป เริ่มในเดือนต.ค.นี้ พร้อมเปิดให้บริการ
บริจาคผ่านคิวอาร์โค้ด หรืออี-โดเนชั่น เผยมี1.2 หมื่นองค์กรลงทะเบียนกับกรมสรรพากรแล้ว
  • ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยครึ่ง
หลังปีนี้จะเติบโตได้ 5% หากปัจจัยต่างๆ มีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เช่น การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณตามแผนงานที่ได้ตั้งไว้
ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี)
  • สภาอุตฯห่วงสงครามการค้ามะกัน-จีน บานปลายกระทบส่งออก ฉุดจีดีพีไทย หอการค้าแนะผลักดันเบิกจ่ายงบรัฐ-
กระตุ้นซื้อ ผู้ว่าการ ธปท.ชี้แก้ไม่ตกเหลื่อมล้ำ-หนี้สูง
  • รัฐบาลจีนได้เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูอุปสงค์ภายในประเทศ ในช่วงเวลา
ที่ความตึงเครียดด้านการค้ามีแนวโน้มที่จะฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลง
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index
(CFNAI) ดีดตัวสู่ระดับ +0.43 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ -0.45 ในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการดีดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในเดือนมิ.
ย.
  • สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 0.6% ในเดือนมิ.
ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.38 ล้านยูนิต โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่ถูกกระทบจากภาวะขาดแคลนบ้านใน
ตลาด ซึ่งส่งผลให้ราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ก.
ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ อันเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์ ได้แสดงความเห็นคัดค้านนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ลดความ
น่าดึงดูดของสัญญาทองคำ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยกดดันจากแรงขายทำกำไร
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค., ดัชนีผู้จัดการ

ฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ค.จากมา

ร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., ผลิตภัณฑ์มวล

รวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2561 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ