นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.28 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 33.37 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.26-33.41 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหว ในทิศทางเดียวกับค่าเงินหยวน
"บาทกลับมาแข็งค่าตามเงินหยวน เป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.25-33.35 บาท/ดอลลาร์
คืนนี้มีการประกาศตัวเลขยอดการสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐ และวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.13 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ 111.28 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1703 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ 1.1684 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,690.08 จุด เพิ่มขึ้น 15.86 จุด, +0.95% มูลค่าการซื้อขาย 57,540.27 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 329.82 ล้านบาท(SET+MAI)
- ธนาคารกรุงไทย (KTB) แนะจับตาปัจจัยค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา แตะที่ระดับ
ประมาณ 6.8 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 6.5 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินหยวนก็อ่อนค่าลงเมื่อ
เทียบกับค่าเงินบาท ซึ่งทางการจีนอาจใช้การอ่อนค่าเงินหยวนเป็นมาตรการช่วยลดผลกระทบจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ เพื่อทำให้
กำไรจากการค้าในรูปเงินสกุลท้องถิ่นเพิ่มขึ้น เพื่อเอื้อให้บริษัทจีนมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น แต่จะส่งผลกระทบต่อความ
สามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยได้
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ประเมินว่า การส่งออกของไทยในปีนี้จะขยาย
ตัวได้ราว 7-9% ภายใต้สมมติฐานว่าเศรษฐกิจไทย (GDP) จะเติบโตที่ระดับ 4.5%
- บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยยอดขายตลาดรวมรถยนต์ในประเทศครึ่งปีแรกโต 19.3% หรืออยู่
ที่ 489,118 คัน และคาดการณ์ยอดขายทั้งปี 61 จะอยู่ที่ราว 9.8 แสนคัน เติบโต 12.4% สูงขึ้นจากเดิมคาด 9 แสนคัน
- ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็น
ประธาน ได้พิจารณาอนุมัติส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการต่างๆ รวมทั้งสิ้น 4 โครงการมูลค่ารวมกว่า 29,631 ล้านบาท และมั่นใจว่า
มูลค่าคำขอส่งเสริมการลงทุนทั้งปียังเป็นไปตามเป้าหมายที่ 7.2 แสนล้านบาท
- คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ในปี 2561 จะ
ขยายตัว 1.8%
- รัฐบาลจีนประกาศว่าจะนำนโยบายการเงินและการคลังมาใช้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนให้เกิดการ
ขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ รวมถึงการปรับโครงสร้าง และกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจที่แท้จริง
- รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่นและเยอรมนีเห็นพ้องเรื่องการส่งเสริมการค้าเสรี ท่ามกลางกระแสการกีดกัน
การค้าที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมความเป็นระเบียบเรียบร้อยระหว่างประเทศ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎเกณฑ์
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะจัดการประชุมประจำเดือนในวันที่ 26 ก.ค.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ที่ประชุมจะ
คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปอีก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการออกมาแสดงความเห็นล่า
สุดเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ