สศค. เผยเศรษฐกิจไทยมิ.ย.มีสัญญาณขยายตัวจากอุปสงค์-อุปทานภายในประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 26, 2018 14:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมิถุนายน และไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมิถุนายน และไตรมาสที่ 2 ปี 2561 มีสัญญาณขยายตัวจากอุปสงค์ภายในประเทศ โดยการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดีสะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และปริมาณ การจำหน่ายรถยนต์นั่งที่ขยายตัวในระดับสูง ด้านการลงทุนภาคเอกชนยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ขณะที่อุปสงค์จากต่างประเทศสะท้อนจากมูลค่าการส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวต่อเนื่อง

สำหรับด้านอุปทานได้รับแรงสนับสนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และดัชนีผลผลิตการเกษตรที่ขยายตัวได้ดี ส่งผลให้รายได้ที่แท้จริงของเกษตรกรขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมขยายตัวสูงสุดในรอบ 42 เดือน

โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาคเอกชนในเดือนมิถุนายน 2561 ปรับตัวดี สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง ยังคงขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกันที่ 26.2% ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งขยายตัว 23.6% ต่อปี สำหรับปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ขยายตัว 10.5% ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัว 11.6% ต่อปี ขณะที่รายได้เกษตรกรที่แท้จริง ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ที่ 3.2% ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 รายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัว 4.9% ต่อปี สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัวที่ 6.9% ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัว 6.0% ต่อปี นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ในเดือนมิถุนายน 2561 อยู่ที่ระดับ 67.9 สูงสุดในรอบ 40 เดือน ทำให้ไตรมาสที่ 2 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 67.5

เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชนในเดือนมิถุนายน 2561 ขยายตัวจากการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุน ขยายตัวต่อเนื่องที่ 6.0% ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ปริมาณนำเข้าสินค้าทุนขยายตัว 5.6% ต่อปี และปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 25.6 ต่อปี เนื่องจากยอดจำหน่ายรถกระบะขนาด 1 ตัน ขยายตัว 29.5% ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัว 28.2% ต่อปี ในขณะที่การลงทุนในหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากภาษีการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวที่ 9.0% ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ภาษีการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว 15.2% ต่อปี ขณะที่ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ขยายตัวชะลอลงที่ 3.4% ต่อปี อย่างไรก็ดี ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ขยายตัว 4.0% ต่อปี สำหรับดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ในเดือนมิถุนายน 2561 ขยายตัว 4.4% ต่อปี สูงสุดในรอบ 72 เดือน ทำให้ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างขยายตัว 3.6% ต่อปี

อุปสงค์จากต่างประเทศผ่านการส่งออกสินค้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือนมิถุนายน 2561 มีมูลค่า 21.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 8.2% ต่อปี และเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 โดยเป็นการขยายตัวได้ดีในตลาดสำคัญโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งการส่งออกไป ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และจีน ยังขยายตัวได้ดี ทั้งนี้ สินค้าที่สนับสนุนการส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ แร่และเชื้อเพลิง ยานพาหนะ และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ที่ขยายตัว 24.6% 10.1% และ 10.5% ต่อปีตามลำดับ ทำให้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 63.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 10.6% ต่อปี

สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้ามีมูลค่า 20.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวต่อเนื่องที่ 10.8% ต่อปี โดยสินค้านำเข้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ เชื้อเพลิง สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าทุน เป็นต้น ทั้งนี้ ผลของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่สูงกว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าส่งผลให้ดุลการค้าในเดือนพฤษภาคม 2561 กลับมาเกินดุลจำนวน 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้านเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทานในเดือนมิถุนายน 2561 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมและรายได้เกษตรกรที่แท้จริงที่ขยายตัวได้ดี นอกจากนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ขยายตัวต่อเนื่องที่ 8.2% ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวได้ดีในหมวดพืชผลสำคัญ หมวดปศุสัตว์ และหมวดประมงที่ขยายตัว 12.9% 0.7% และ 0.2% ตามลำดับ เป็นผลทำให้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ขยายตัว 12.9% ต่อปี สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) อยู่ที่ระดับ 91.7 ขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 42 เดือน เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศและภาคการส่งออกยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดนในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ดัชนี TISI อยู่ที่ระดับ 90.3 นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนมิถุนายน 2561 มีจำนวน 3.03 ล้านคน ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ 11.6% ต่อปี โดยนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีมาจากนักท่องเที่ยวชาวจีน เป็นสำคัญ ในขณะที่นักท่องเที่ยวประเทศอื่นยังคงขยายตัวได้ดี เช่น นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ฮ่องกง ลาว และอินเดีย เป็นต้น ทำให้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีจำนวน 8.87 ล้านคน ขยายตัว 9.1% ต่อปี สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวต่างประเทศมูลค่า 442,581 ล้านบาท ขยายตัว 12.1% ต่อปี

เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี และเสถียรภาพภายนอกอยู่ในระดับที่มั่นคง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมิถุนายน 2561 อยู่ที่ 1.4% ต่อปี เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน โดยสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลัก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.8% ต่อปี ทำให้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.3% และ 0.8% ต่อปี ตามลำดับ

อัตราการว่างงานในเดือนมิถุนายน 2561 อยู่ที่ 1.0% ของกำลังแรงงานรวม หรือคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงาน 4.2 แสนคน ทำให้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 อัตราการว่างงานอยู่ที่ 1.1% ของกำลังแรงงานรวม ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 อยู่ที่ 40.8% ต่อ GDP ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกิน 60% ต่อ GDP สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคงและสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2561 อยู่ที่ระดับ 206.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้น 3.5 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ