รมว.คลัง เตรียมเสนอครม.เห็นชอบมาตรการคืน VAT-รักษาพยาบาลฟรีให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 1, 2018 13:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการภาครัฐจำนวน 11.4 ล้านคน ให้สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลผ่านโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน ภายใน 2-3 สัปดาห์หลังจากนี้ โดยจะประสานกับกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลทุกแห่งถึงแนวทางการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าว ส่วนเงินชดเชยนั้นเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เพราะคาดว่าจะใช้เงินในการดำเนินมาตรการไม่มากนัก

"เบื้องต้นคาดว่าผู้ถือบัตรสวัสดิการจะเริ่มรับบริการตามโครงการ 30 บาทโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่เดือน ก.ย.61 เป็นต้นไป โดยมาตรการนี้จะเป็นมาตรการถาวร ไม่ใช่มาตรการชั่วคราว ซึ่งหลักคิดของมาตรการคือ ผู้มีรายได้น้อยไม่ควรมีภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้ โดยบัตรสวัสดิการจะเป็นเครื่องยืนยันตัวตนที่จะได้รับการบริการจากโรงพยาบาล ซึ่งสิทธิการรักษาทุกอย่างจะได้ตามปกติ" นายอภิศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ และการวางระบบไอทีเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายของกรมสรรพากร โดยเบื้องต้นตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค.61 เป็นเวลา 3 เดือน ส่วนเพดานการคืนภาษี VAT นั้นยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน คงต้องรอให้การวางระบบไอทีต่าง ๆ เรียบร้อยก่อน

สำหรับการคืนภาษี VAT นั้นจะคำนวณให้ทั้งในส่วนเงินช่วยเหลือที่รัฐจ่ายให้ผ่านบัตรทุกเดือน และในส่วนที่ผู้มีรายได้น้อยเติมเงินใส่เข้าไปในบัตรสวัสดิการเองเพื่อใช้จ่ายในการซื้อสินค้าต่าง ๆ ส่วนหลักการในการคืนภาษีแวตนั้นจะคืนเงินภาษีเข้าไปในบัตรสวัสดิการ โดยผู้ถือบัตรสามารถนำเงินในส่วนที่ได้รับคืนจากภาษี VAT ไปซื้อสินค้าต่าง ๆ ต่อ หรือสามารถกดเป็นเงินสดออกมาใช้จ่ายได้ด้วย ขณะที่กระบวนการคืนภาษีนั้นยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะคืนให้ทุกเดือนตลอดระยะเวลา 3 เดือน หรือจะคืนครั้งเดียวหลังสิ้นสุดโครงการ

รมว.คลัง กล่าวว่า ในหลักการเบื้องต้นนั้นผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการฯ จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี ดังนั้นการคืนเงินภาษี VAT จึงจะคิดเป็นจำนวนเท่ากับภาษี VAT ที่เสียไปผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือไม่ควรเกิน 7 พันบาทต่อราย เพราะหากการขอคืนภาษี VAT สูงกว่าจำนวนดังกล่าวก็ถือว่าบุคคลนั้นไม่ได้เป็นผู้มีรายได้น้อยแล้ว

"ตอนนี้กำลังวางระบบ ในส่วนของวงเงินที่รัฐให้ผ่านบัตรทุกเดือนนั้น ธนาคารกรุงไทยจะรับหน้าที่เก็บข้อมูลจากการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรเพื่อส่งให้กรมสรรพากร ส่วนวงเงินที่ผู้มีรายได้น้อยเติมเอง ได้ประสานกับสมาคมธนาคารไทยให้เป็นผู้เก็บข้อมูลเพื่อส่งให้กรมสรรพากรต่อไป เพื่ออำนวยความสะดวกผู้มีรายได้น้อยไม่ต้องเก็บใบกำกับภาษีเพื่อใช้ขอคืนภาษี VAT ส่วนการคืนภาษีนั้นกำลังพิจารณาว่าจะคืนให้ผู้ถือบัตรทุกเดือน หรือคืนครั้งเดียวตอนสิ้นปี เบื้องต้นมองว่าการคืนแบบรายเดือนน่าจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจมากกว่า เพราะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจได้ดีขึ้น" นายอภิศักดิ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ