กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของแคนาดาจะชะลอตัวลงในปีหน้า และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลง เนื่องจากธนาคารกลางแคนาดาเตรียมออกนโยบายการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของแคนาดา ขยายตัวเร็วกว่ากลุ่มประเทศจี 7 และสูงกว่าการคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากปัจจัยภายนอกอาจเพิ่มขึ้นอีก อันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวและการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ความต้องการในประเทศคาดว่าจะลดลงเนื่องจากสภาวะการเงินตึงตัว ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า GDP ของเยอรมนีในปี 2551 จะขยายตัวในช่วง 2-2.5% แต่อาจเผชิญความเสี่ยงช่วงขาลง เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย และจากความเสี่ยงที่ว่าสภาวะการเงินทั่วโลกอาจตึงตัวมากขึ้น ไอเอ็มเอฟกล่าวว่า ธนาคารกลางแคนาดาอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนธ.ค.นี้ "ธนาคารกลางแคนาได้ปรับเปลี่ยนนโยบายใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในสภาวะการเงินทั่วโลกและแนวโน้มเศรษฐกิจภายนอกที่ชะลอตัวลง โดยการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินในอนาคตนั้นอาจขึ้นอยู่กับข้อมูลที่จะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์และระบบการเงินทั้งหมดของแคนาดาได้รอดพ้นจากความผันผวนทางการเงิน แต่ไอเอ็มเอฟเตือนว่า การแทรกแซงของบุคคลที่สาม และโครงการลงทุนในตลาดตราสารเชิงพาณิชย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสินทรัพย์ (ABCP) ซึ่งไม่ใช่ของธนาคารนั้น ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน