ภาวะตลาดเงินบาท: เปิดหลุด 33 มาที่ 32.87 แข็งค่าในรอบ 2 เดือน ตลาดรอติดตามรายงานประชุมเฟด-ประชุม ECB

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 21, 2018 09:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.87 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ ปิดตลาดอยู่ที่ 33.06 บาท/ดอลลาร์

"บาทแข็งค่าหลุด 33 บาท/ดอลลาร์ มาที่ 32.87 บาท/ดอลลาร์ เป็นการแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน นับตั้งแต่ 21 มิถุนายน 61...เมื่อวานตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของไทยออกมาดี ประกอบกับผู้ว่า ธปท. ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่นายโด นัลด์ ทรัมป์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด"นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ระหว่าง 32.80-32.95 บาท/ดอลลาร์

"ตลาดยังรอรายงานการประชุมเฟด และ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) กลางสัปดาห์"

THAI BAHT FIX 3M (21 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.32607% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.38819%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 109.88 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 110.64 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1519 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 1.1409 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.1330 บาท/
ดอลลาร์
  • ธปท.เตือนอัตรา แลกเปลี่ยน และกระแสการไหลเข้าออกของเงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มผันผวนสูงและต่อเนื่องยาว
จากการนำนโยบายการเงินที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติของประเทศเศรษฐกิจหลัก บวกกับความกังวลการทำสงครามการค้า หนุนภาคธุรกิจ
ใช้เงินสกุลท้องถิ่นป้องกันความเสี่ยง มองวิกฤติตุรกีกระทบไทยโดยตรงน้อย
  • ธนาคารทหารไทย (TMB) แจ้งว่าตามที่ได้รับการสอบถามจากนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงของธนาคารในประเทศ
ตุรกีนั้น ธนาคารไม่มีการลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาล หรือตราสารหนี้ของบริษัทในประเทศตุรกีแต่อย่างใด
  • ธปท. แนะลดใช้ดอลลาร์สหรัฐซื้อขายสินค้า หันมาใช้สกุลท้องถิ่นถูกกว่า ตุนหยวนรองรับความตกลงใช้บาท-หยวนทั่ว
จีน
  • สศช. กำลังติดตามสถานการณ์ของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่ากรณีนี้จะส่งผล
กระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะกรณีที่สหรัฐเตรียมประกาศมาตรการกีดกันทางการค้าด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์
จากทุกประเทศ ซึ่งถ้าสหรัฐประกาศมาตรการนี้ออกมาใช้จริง เชื่อว่า จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อห่วงโซ่การผลิตรถยนต์ทั่วทั้ง
โลก จนทำให้เศรษฐกิจโลกในปี 62 เกิดการชะลอตัวมากกว่าที่คาดไว้เดิมอย่างแน่นอน
  • ส.อ.ท.ปรับเป้ายอดผลิตรถยนต์ คาดทั้งปีแตะ 2.08 ล้านคัน ขายในประเทศเพิ่มอีก 8 หมื่นคัน สะท้อนภาวะตลาด
เติบโต
  • ธนาคารกรุงไทย (KTB) ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ไว้ที่ 4.5% โดยมองเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังของปียัง
เติบโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก แต่ไม่ร้อนแรงเหมือนช่วงครึ่งปีแรก เพราะในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ภาคเกษตรเติบโตดีมากจาก
สภาพอากาศเอื้ออำนวย มองเป็นปัจจัยชั่วคราว จึงคาดว่าการเติบโตจะลดความร้อนแรงลง ทั้งนี้ เศรษฐกิจนอกภาคเกษตรยังคง
สามารถขยายตัวได้ในครึ่งหลังปีนี้ และอาจจะดีขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากคาดว่าการก่อสร้างของภาครัฐจะปรับตัวเพิ่ม
ขึ้น
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา คงคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้ง
ในปีนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศได้เพิ่มความเสี่ยงในช่วงขาลงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กรณีที่เฟดมีนโยบายปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ย
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ส.
ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับนโยบายปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลัง
จากตลาดการเงินทั่วโลกมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบ
กับสกุลเงินหลักๆ และจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • นักลงทุนจับตาคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุม
ประจำวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค. ในวันพุธนี้
  • นักลงทุนยังจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐ
ไวโอมิง ในวันที่ 23-25 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาด และสิ่งบ่งชี้สำหรับทิศทาง
นโยบายการเงิน"
  • ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับ
สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.จากมา
ร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้า
คงทนเดือนก.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ