ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.74 แนวโน้มอ่อนค่า คาดกรอบพรุ่งนี้ 32.62-32.80 จับตารายงานประชุม FOMC

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 22, 2018 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.74 บาท/ดอลลาร์ จาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.71/72 บาท/ดอลลาร์

โดยระหว่างวันเงินบาททำ low สุดที่ระดับ 32.62 บาท/ดอลลาร์ และทำ high สุดที่ระดับ 32.79 บาท/ดอลลาร์ ช่วงปิดตลาดเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงจากเช้า เนื่องจากตลาดผิดหวังกับการประกาศตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนก.ค.61 ที่ออกมา เติบโตเพียง 8% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 10% อีกทั้งยังกลับมาขาดดุลการค้าอีกครั้งในรอบ 3 เดือนนับตั้งแต่ เม.ย.61

"ตลาดผิดหวังกับการส่งออกในเดือนก.ค. ที่โตแค่ 8% จากที่คาดไว้ว่าจะโตได้ถึง 10% ประกอบกับยังกลับไปขาด ดุลการค้าอีกรอบ จึงทำให้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลง" นักบริหารเงินระบุ

ปัจจัยที่ตลาดจับตาช่วงนี้ คือ รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ, ผลการเจรจาระหว่างตัวแทนทางการค้าของ สหรัฐฯ กับจีน รวมทั้งความกังวลการเมืองสหรัฐฯ หลังจากอดีตหัวหน้าทีมหาเสียง และอดีตทนายของประธานาธิบดีสหรัฐ ถูกศาล ตัดสินความผิดทั้งคดีโกงภาษี, ฟอกเงิน, ใช้เงินหาเสียงเลือกตั้ง ทำให้ sentiment ตลาดในช่วงนี้ไม่ค่อยดี สกุลเงินในตลาดเกิด ใหม่จึงมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อ

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.62 - 32.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.28 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 110.15 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1594 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1577 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,698.30 จุด เพิ่มขึ้น 3.67 จุด (+0.22%) มูลค่าการซื้อขาย 38,035 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 258.28 ลบ.(SET+MAI)
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม
สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้พิจารณาภาพรวมแผนการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านความ
มั่นคงทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการมีส่วนร่วมจากทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมย้ำว่า การเลือกตั้งในเดือน ก.พ.62 มีความ
เหมาะสมที่สุดแล้ว และหากมีประเด็นใดที่ต้องแก้ปัญหาก็สามารถใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.แก้ไขได้ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่าง
ไม่เป็นอุปสรรคและให้เกิดการเลือกตั้ง
  • กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ก.ค.61 โดยการส่งออกมีมูลค่า 20,423
ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 8.27% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,940 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 10.53% ส่งผลให้ดุลการค้า ก.
ค. ขาดดุล 516 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่การส่งออกช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.) ขยายตัวได้ 10.57% ซึ่งกระทรวง
พาณิชย์ยังคงเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ไว้ที่ 8% และจะมีการทบทวนเป้าหมายอย่างเป็นทางการอีกครั้งในการประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลก
ช่วงเดือน ต.ค.61
  • หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 61 รวม 5.51 แสน
ล้านบาท เติบโต 7.61% จากช่วงเดียวกันปีก่อน กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่น คือ กลุ่มที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมัน
กลุ่มบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจในกลุ่ม Well-being และกลุ่มธุรกิจการเงิน อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งหลังของปี 61 ราคาน้ำมัน
และอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่แน่นอน เป็นปัจจัยที่ควรให้ความระมัดระวังมากขึ้นในการบริหารกิจการ
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ระบุว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหภาพยุโรป
(EU) ในอัตราระดับ 25% คำกล่าวของประธานธิบดีสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่หนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานว่านายวิ
ลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์ ได้ประกาศเลื่อนการเปิดเผยรายงานเกี่ยวกับภาษีนำเข้ารถยนต์ ซึ่งแต่เดิมมีกำหนดจะเปิดเผยในเดือน
ส.ค.นี้ เนื่องจากติดปัญหาด้านการเจรจากับเม็กซิโก แคนาดา และสหภาพยุโรป
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ระงับการดำเนินการทางตลาดเงินในวันนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพและสภาพคล่องของ
ระบบการเงินที่ยังมีอยู่เพียงพอ โดยระบุเหตุผลว่าในช่วงใกล้สิ้นเดือน รายการใช้จ่ายด้านการคลังสามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้น
จากปัจจัยต่างๆ ได้ เช่น การชำระพันธบัตรออกใหม่ของรัฐบาลจีน
  • นักลงทุนติดตามการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ เช่น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ

ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมของวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.61, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย

สัปดาห์ของสหรัฐ, มาร์กิตรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเบื้องต้นเดือน ส.ค., สหภาพยุโรป

รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนส.ค. และญี่ปุ่นรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ค. เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ