รมช.พาณิชย์ เผยที่ประชุม RCEP เจรจาคืบหน้า เร่งหาข้อสรุปในประเด็นหลักที่เหลือภายในปีนี้ ก่อนลงนามปี 62

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 3, 2018 15:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ครั้งที่ 6 ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 50 เมื่อวันที่ 30-31 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประสบความสำเร็จอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ระดับรัฐมนตรี RCEP ตกลงกันได้ในประเด็นหลักที่มีความสำคัญกับอนาคตของการเจรจา โดยเฉพาะใน 6 เรื่องสาคัญ คือ การจัดทำข้อผูกพันการเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน การจัดทำข้อบทเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา การแข่งขัน และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งมอบหมายให้ระดับเทคนิคไปหารือกันต่อในรายละเอียดเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องเหล่านี้ให้ได้ภายในปี 2561

ปัจจุบันสมาชิก RCEP สามารถหาข้อสรุปได้แล้ว 4 เรื่อง คือ การจัดทำข้อบทเรื่องพิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า การจัดซื้อจ้ดจ้างโดยรัฐ ผู้ประกอบการ SMEs และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สาหรับเรื่องอื่นๆ จะต้องพยายามเร่งหาข้อสรุปโดยเร็วต่อไป โดยเฉพาะใน 6 เรื่องที่ระดับรัฐมนตรีตกลงกันในการประชุมครั้งนี้ เพราะเป็นประเด็นที่มีความสาคัญต่อการขับเคลื่อนการเจรจาไปสู่ความสาเร็จ

"หลังจากนี้ผู้เจรจาในระดับเทคนิคจะต้องพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อขับเคลื่อนการเจรจาไปสู่เป้าหมายตามที่ระดับรัฐมนตรีกำหนดไว้" รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า

นอกจากนี้ ที่ประชุมระดับรัฐมนตรียังได้ตกลงแผนการทำงานในอนาคต เพื่อให้สามารถรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมระดับผู้นำได้ โดยกำหนดให้สมาชิกยื่นข้อเสนอการเปิดตลาดสินค้า บริการ และลงทุนฉบับปรับปรุง ภายในวันที่ 28 กันยายน 2561 ควบคู่ไปกับการหารือระดับสองฝ่าย เพื่อให้การเปิดตลาดระหว่างสมาชิก RCEP ตอบสนองข้อเรียกร้องระหว่างกัน และให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีRCEP สมัยพิเศษ ในต้นเดือนตุลาคม 2561 เพื่อประเมินผลข้อเสนอเปิดตลาดฉบับปรับปรุง ก่อนเปิดให้สมาชิกยื่นข้อเสนอ การเปิดตลาดฉบับสุดท้าย ในวันที่ 15 ตุลาคม 2561 จากนั้นจะมีการประชุมระดับเทคนิคเต็มรอบ ในวันที่ 21-27 ตุลาคม 2561 ที่นิวซีแลนด์ ก่อนที่ระดับรัฐมนตรีและระดับผู้นำสมาชิก RCEP จะพบกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ ในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่สิงคโปร์

รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ สมาชิก RCEP ได้แสดงความมุ่งมั่นให้การเจรจาคืบหน้าและประกาศผลสรุปที่มีนัยสำคัญในปลายปี 2561 และจัดทำเอกสารผลการเจรจาเพื่อให้สามารถลงนามได้ในปี 2562 โดยเห็นว่า การรวมกลุ่มเพื่อเปิดการค้าเสรีในระดับภูมิภาคขนาดใหญ่ เช่น RCEP ซึ่งมีสมาชิก 16 ประเทศ (อาเซียน 10 ประเทศ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี และอินเดีย) จะช่วยให้สมาชิกสามารถรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทายที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจการค้าโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะผลการเจรจาจะทำให้ RCEP กลายเป็นตลาดการค้าและการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมหนึ่งในสามของเศรษฐกิจโลก มีประชากรรวมกันกว่า 3.5 พันล้านคน มี GDP รวมกันมากกว่า 23 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งผู้ประกอบการไทยจะสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP เชื่อมเข้าสู่ห่วงโซ่มูลค่า ในภูมิภาคอาร์เซ็ปและตลาดโลกด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนการค้าของไทยกับประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปในปี 2560 มีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 2.69 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 58.66 ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 10.85 ทั้งนี้ ประเทศในภูมิภาค RCEP ที่ไทยส่งออกมากที่สุดตามลาดับ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย โดยมีสินค้าสาคัญที่ไทยส่งออก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา เครื่องจักรกล เหล็ก เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ