พาณิชย์ เตรียมนัดหารือเวียดนาม มุ่งเป้าแก้ปัญหาอุปสรรคส่งออกรถยนต์อย่างต่อเนื่อง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 4, 2018 16:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเวียดนามมีมาตรการควบคุมการนำเข้ารถยนต์ (Decree 116) ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ว่า ภายหลังจากที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ได้หารือกับนาย เจิ่น ต๊วง แองห์ รมว.อุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ในการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2561 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และไทยได้ใช้โอกาสนี้ยกข้อกังวลต่อการใช้มาตรการควบคุมการนำเข้ารถยนต์ของเวียดนามว่า ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการค้าของไทยไปเวียดนามอย่างมาก เพราะมาตรการดังกล่าวกำหนดให้รถยนต์นำเข้าทุกล็อต ทุกแบบ ทุกรุ่น ทุกลำเรือ ต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานของท่อไอเสียกับห้องแล็ปของเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันยังมีเพียงแห่งเดียว ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องรอคิวตรวจและใช้เวลานาน จากที่เดิมไม่มีมาตรการนี้จะใช้เวลาผ่านด่านเพียง 1-3 วัน เมื่อเวียดนามออกมาตรการใช้เวลาเพิ่มขึ้นเป็น 30 วัน

ในการประชุม JTC ไทยจึงได้เสนอแนวทางแก้ปัญหา และเนื่องจากไทยมีห้องแล็ปมีศักยภาพและบุคลากรเพียงพอ จึงได้เสนอให้มีการจัดทำความตกลงหรือความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อให้เวียดนามยอมรับผลการตรวจสอบของไทย และไม่ต้องตรวจซ้ำที่เวียดนาม ซึ่งที่ประชุม JTC ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและระดับเจ้าหน้าที่ให้ไปหารือในรายละเอียดต่อไป

ขณะนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ อยู่ระหว่างติดตามความคืบหน้าและทาบทามเพื่อนัดหารือกับฝ่ายเวียดนาม และเตรียมจัดคณะผู้แทนในระดับเทคนิคจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางไปหารือกับกระทรวงคมนาคมของเวียดนาม ซึ่งจะเป็นหน่วยงานหลักในการหารือกับฝ่ายไทย คาดว่าจะสามารถหาเวลาที่เหมาะสมได้โดยเร็ว

โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานด้านเทคนิคของไทย ได้เดินทางไปหารือเบื้องต้นกับกระทรวงคมนาคมและกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 นอกจากนี้ ในการดำเนินการที่ผ่านมา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้หารือกับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ประกอบการยินดีและพร้อมให้การสนับสนุนต่อแนวทางดำเนินการดังกล่าว เพื่อเร่งบรรเทาอุปสรรคในการส่งออกรถยนต์ของไทยไปเวียดนาม โดยเฉพาะเงื่อนไขของกฎระเบียบของเวียดนามที่กำหนดให้รถยนต์นำเข้าทุกรุ่นทุกแบบต้องเข้ารับการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทุกครั้งที่มีการนำเข้ามาในประเทศ และเพื่อผลักดันให้เวียดนามปฏิบัติต่อรถยนต์นำเข้าเท่าเทียมรถยนต์ที่ผลิตในเวียดนามซึ่งเป็นหลักปฏิบัติสากล

นางอรมน กล่าวเสริมว่า ไทยและเวียดนามสนับสนุนความสำคัญของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ความร่วมมือที่ดีระหว่างกันยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมสนับสนุนภายในอาเซียนอย่างยั่งยืน ซึ่งไทยพร้อมที่จะร่วมมือเชื่อมโยงอุตสาหกรรมยานยนต์ของเวียดนามเข้ากับอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมสนับสนุนของไทย และห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์ในอาเซียน

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2561 ไทยส่งออกรถยนต์ไปยังเวียดนาม รวม 15,411 คัน โดยมีแนวโน้มการส่งออกรายเดือนเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ทั้งนี้ การส่งออกรถยนต์ในช่วง 7 เดือนของปี 2561 คิดเป็น 23.71% ของเป้าหมายการส่งออกซึ่งภาคเอกชนตั้งไว้ที่ 65,000 คัน ในปี 2561 โดยลดลง 26.7% จากการส่งออกช่วงเวลาเดียวกันในปี 2560 (21,021 คัน)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ