พาณิชย์ ผลักดันโครงการพัฒนาแพคเกจจิ้งสินค้าจีไอ ดันเป็นสินค้าพรีเมี่ยม เพิ่มมูลค่า ดันราคาพุ่งขึ้น 20-100%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 5, 2018 16:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เผยความคืบหน้าการจัดทำโครงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ปี 61 ว่า กรมฯ ได้ช่วยเหลือผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้าจีไอ 10 รายการ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิสุรินทร์, ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี, ทุเรียนนนท์, ทุเรียนป่าละอู, ไข่เค็มไชยา, ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง, ส้มโอปูโกยะรัง, ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน, มะขามหวานเพชรบูรณ์ และกาแฟเขาทะลุ ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่สินค้าให้มีความสวยงาม ทันสมัย และดึงดูดใจผู้ซื้อ แต่ยังคงอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของสินค้า เพื่อผลักดันให้สินค้าจีไอเป็นสินค้าพรีเมี่ยม

หลังจากดำเนินการดังกล่าวแล้วส่งผลให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และจำหน่ายได้ในราคาสูงขึ้นจากปกติ 20-100% ถือเป็นการส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ กรมฯ ยังช่วยเหลือในการออกแบบชุดของขวัญสินค้าจีไอ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเลือกซื้อสินค้าจีไอเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการอีกทางหนึ่ง

"ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่กรมฯได้ช่วยเหลือผู้ผลิต ผู้ประกอบการในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และพัฒนาตัวสินค้าให้ดีขึ้น ซึ่งหลังจากมีแพ็กเก็จที่สวยงามแล้ว ช่วยดึงดูดลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบสินค้าจีไออยู่แล้ว แม้จะขายแพงขึ้นก็ยอมซื้อ ส่วนปีที่ผ่านมา กรมฯได้ช่วยพัฒนาบรรจุภัณฑ์ พัฒนาสินค้า และพัฒนาแพ็กเก็จสำหรับเป็นของขวัญปีใหม่ไปแล้ว 10 สินค้า เช่น ชามไก่ลำปาง ศิลาดลเชียงใหม่ ยำไลอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน ข้าวเจ๊กเชยเสาไห้ เป็นต้น ส่วนปีหน้า จะช่วยพัฒนาทั้งตัวสินค้า และบรรจุภัณฑ์อีกมาต่ำกว่า 10 สินค้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือก" นายทศพล กล่าว

อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ขณะนี้มีการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอครบทุกจังหวัดแล้ว แต่มีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว 99 สินค้าใน 66 จังหวัด ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอ ล่าสุด กรมฯอยู่ระหว่างประกาศโฆษณาคำขอขึ้นทะเบียนทุเรียนสาลิกา จ.พังงา โดยจะใช้ระยะเวลา 3 เดือน หากไม่มีผู้ใดคัดค้าน ทุเรียนสาลิกาจะเป็นสินค้าจีไอรายการที่ 100 ที่ได้รับการจดทะเบียนในไทย

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เดินหน้าผลักดันการขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอของไทยในต่างประเทศ โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณายื่นคำขอขึ้นทะเบียนในญี่ปุ่น คือ สับปะรดห้วยมุ่น กาแฟดอยช้าง และกาแฟดอยตุง ส่วนประเทศอื่นที่ได้ยื่นคำขอไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา เช่น จีน ยื่นขึ้นทะเบียนข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ มะขามหวานเพชรบูรณ์ และส้มโอทับทิมสยามปากพนัง, กัมพูชา กาแฟดอยตุง, เวียดนาม มะขามหวานเพชรบูรณ์ และลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน ส่วนสินค้าจีไอของไทย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในต่างประเทศแล้ว คือ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยตุง และกาแฟดอยช้าง ที่สหภาพยุโรป (อียู), ผ้าไหมยกดอกลำพูน ในอินเดียและอินโดนีเซีย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ