นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 5-6 กันยายน 2561 ตนได้เป็นหัวหน้าคณะนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวม 15 หน่วยงาน เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ครั้งที่ 2 ณ เมืองเมียวดี เมียนมา เพื่อร่วมมือส่งเสริมและแก้ปัญหาการค้าชายแดนระหว่างกัน โดยมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าไทย-เมียนมา ในลักษณะ WIN-WIN บนพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจ และตั้งเป้าขยายการค้าชายแดนโดยเฉพาะด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจระดับภูมิภาคขยายตัว และทำให้เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเติบโตไปด้วยกัน
ทั้งนี้ ไทยได้เน้นย้ำให้เมียนมาเร่งรัดจัดเตรียมความพร้อมสำหรับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่คาดว่าจะเปิดอย่างเป็นทางการปลายปี 2561 โดยขอให้เมียนมาเร่งปรับปรุงถนนเชื่อมโยงจากสะพานมิตรภาพฯ แห่งใหม่ไปยังตัวเมือง รวมทั้งเร่งรัดให้เมียนมาดำเนินพิธีการตรวจแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (Single Stop Inspection : SSI) โดยให้เจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานร่วมกันในพื้นที่ควบคุมร่วมกัน (Common Control Area : CCA) ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพฯ แห่งใหม่ของทั้ง 2 ประเทศ เพราะฝ่ายไทยมีความพร้อมแล้ว
นอกจากนี้ ขอให้ด่านชายแดนเมียนมาสามารถตรวจอนุมัติ FORM D ที่ไทยใช้ประกอบการส่งออก เพื่อขอใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน เพราะปัจจุบันด่านชายแดนของเมียนมายังไม่สามารถอนุมัติได้ต้องส่งไปให้ส่วนกลาง เช่น กรุงย่างกุ้ง ตรวจสอบ ทำให้เกิดความล่าช้าเพราะใช้เวลาถึง 7 วัน กระทบต่อสินค้าเกษตรที่เน่าเสียง่ายและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และขอให้เมียนมาประกาศให้เงินบาทไทยเป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการ ถัดจากเงินเหรียญสหรัฐฯ เงินยูโร และเงินเหรียญสิงคโปร์ ซึ่งจะทำให้มีการอนุญาตการโอนเงินบาทผ่านระบบธนาคารระหว่างไทย-เมียนมาได้อย่างเป็นทางการ ทำให้การใช้จ่ายเงินสำหรับการค้าชายแดนจะเป็นระบบทางการยิ่งขึ้น ไม่พึ่งพาระบบ "โพยก๊วน" หรือต้องแลกเปลี่ยนเป็นเงินเหรียญสหรัฐ ทำให้เกิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
นายอดุลย์ กล่าวว่า ฝ่ายเมียนมาได้ร้องขอให้ไทยช่วยอำนวยความสะดวกการนำเข้าสินค้าเกษตรตามชายแดน โดยสามารถตรวจสอบมาตรฐานสุขอนามัยได้ที่ด่านชายแดน เช่น อ.แม่สอด จ.ตาก โดยไม่ต้องส่งสินค้าไปตรวจสอบที่ จ.เชียงใหม่ และขอความร่วมมือไทย เผยแพร่กฎระเบียบ มาตรการนำเข้า ส่งออก สินค้าเกษตร รวมทั้งสินค้าปศุสัตว์ ซึ่งเมียนมาต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันจัดทำความตกลงร่วมกันในด้านการตรวจสอบสุขอนามัยระหว่างกัน นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงที่จะร่วมมือกำกับดูแล เพื่อให้มีการค้าชายแดนอย่างเป็นระบบโปร่งใสยิ่งขึ้น ไม่มีการหลบเลี่ยงหรือลักลอบส่งออก-นำเข้าสินค้าผิดกฎหมายด้วย
สำหรับครึ่งแรกของปี 2561 ไทยทำการค้าชายแดนกับเมียนมา คิดเป็นมูลค่ากว่า 97,265 ล้านบาทและคิดเป็นสัดส่วน 80% ของการค้าระหว่างประเทศไทย-เมียนมา ดังนั้น การค้าชายแดนระหว่างไทย-เมียนมา จึงมีความสำคัญมาก โดยสินค้าหลักที่ไทยส่งออกทางชายแดนไปเมียนมา คือ น้ำมันดีเซล เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และผ้าผืนและด้าย และสินค้าหลักที่ไทยนำเข้า คือ ก๊าซธรรมชาติ สัตว์น้ำ โค กระบือ สุกร แพะ แกะ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากสัตว์ และเหล็ก