นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 32.77 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้า ที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.78 บาท/ดอลลาร์
"ระหว่างวันเงินบาทวิ่งแคบมาก อยู่ในกรอบ 32.77-32.81 น่าจะรอ Non Farm คืนนี้รวมทั้งรายละเอียดในรายงาน ตัวเลขดังกล่าว นอกจากนี้ยังต้องดูท่าทีของสหรัฐฯและจีนเกี่ยวกับประเด็นสงครามการค้าที่ผลการทำประชาพิจารณ์ออกมาแต่ยังไม่มี การเปิดเผย รวมทั้งประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศอื่น...ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดโลกค่อนข้างผันผวน" นักบริหาร เงิน กล่าว
สำหรับในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเงินบาทไว้ระหว่าง 32.70-32.85 บาท/ดอลลาร์ โดยตัว เลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ น่าจะมีผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.80 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 110.56 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1636 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1623 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,689.49 จุด ลดลง 4.45 จุด, -0.26% มูลค่าการซื้อขาย 36,451.74 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 751.66 ลบ.(SET+MAI)
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) ระบุว่า ความกังวลสงครามการค้าจะเป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจ
โลกชะงักเร็วกว่าที่หลายฝ่ายประเมินไว้ โดยเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอที่ชัดเจนจากตัวชี้วัดภาคการผลิตและบริการ หรือ PMI ใน
หลายประเทศที่เริ่มปรับลดลงและแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาด แนะภาคธุรกิจประเมินความเสี่ยงด้วยการทำ Stress Test ช่วยให้
สามารถวางแผนการดำเนินธุรกิจเพื่อรับมือสถานการณ์การค้าโลกที่แย่ลงจากมาตรการกีดกันทางการค้าได้อย่างเหมาะสม
- ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐ
วิสาหกิจ 45 แห่ง ที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรงตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 – กรกฎาคม 2561 มีจำนวน 262,998 ล้านบาท ขยาย
ตัวสูงถึง 71% เมื่อเทียบกับผลเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมในช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยการลงทุนที่เติบโตของรัฐวิสาหกิจเป็นผลมาจาก
การเร่งลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่
- กรมการค้าต่างประเทศจะติดตามความคืบหน้ากรณีพิพาทภายใต้ WTO เรื่องการขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของ
สหรัฐฯ ภายหลังได้รับแจ้งจากคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกว่า เมื่อวันที่ 20
สิงหาคม 2561 องค์การการค้าโลก (WTO) ได้แจ้งเวียนคำขอหารือ (Consultations) ของตุรกี กรณีสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้า
เหล็กและอะลูมิเนียมจากตุรกีโดยใช้มาตรา 232 ของกฎหมาย Trade Expansion Act of 1962 ของสหรัฐฯ ที่ให้สามารถขึ้น
ภาษีนำเข้าสินค้าที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ (National Security) ได้
- เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) คาดว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนของ กบข.ในปีนี้จะอยู่ที่
ระดับ 2-3% ลดลงจากปีก่อนที่ 6.42% เนื่องจากการลงทุนในตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปัจจัยจากภายนอก
ประเทศมากระทบและกดดันค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้เป็นผลจากปัจจัยภายในประเทศ
- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงโครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ว่า ไม่ได้เป็นโครงการถาวร หรือโครงการระยะยาว โดยจะดำเนินการทั้งสิ้น 6 เดือนเท่านั้น คือ เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย.61-เม.
ย.62 สำหรับวงเงินคืนภาษีสูงสุดไม่เกินรายละ 500 บาท/เดือน
- กระทรวงการคลังได้อนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศ จำนวน 1 ราย ได้แก่ The Ministry of Finance of
the Laos People Democratic Republic (MOFL) ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยได้ ภายในวันที่ 31
พฤษภาคม 2562
- ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยว่า ความยากลำบากในการเข้าถึงแหล่งเงิน และสภาพแวดล้อม
ทางธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวยเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งไม่ให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในเอเชียและแปซิฟิก มีส่วนช่วยฟื้นฟู
และพัฒนาเศรษฐกิจประเทศได้
- กระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์ว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้ที่จำเป็น ซึ่งมาตรการดังกล่าวขึ้นอยู่กับการดำเนิน
การจัดเก็บภาษีโดยสหรัฐ
- นักลงทุนยังคงมีความกังวลในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจากที่สหรัฐจะใช้มาตรการค้ากับญี่ปุ่นเป็น
รายต่อไป
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกคาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคาร
กลางสหรัฐ (FOMC) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติ (neutral rate) เพื่อผลักดัน
เศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย
- นักลงทุนรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูล
ดังกล่าวในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย