พาณิชย์ จับมือ Amfori ยกระดับการจัดการด้านแรงงานให้ตรงความต้องการของตลาดในยุโรป

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 12, 2018 15:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุพพัต อ่องแสงคุณ ที่ปรึกษาการพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามแนวโน้มความต้องการของผู้ขายสินค้าและผู้บริโภคในตลาดสหภาพยุโรปอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย โดยพบว่านอกเหนือจากความต้องการสินค้าที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูงแล้ว ยังให้ความสำคัญถึงประเด็นทางสังคมและสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่การผลิตสินค้า และความต้องการดังกล่าวได้ถูกนำไปปรับเป็นนโยบายและกฎระเบียบอีกด้วย ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ซึ่งทำหน้าที่ดูแลด้านการตลาดของสินค้าส่งออกไทยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีผลโดยตรงต่อภาพพจน์สินค้าไทยในตลาด

กระทรวงฯ จึงได้ให้สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงบรัสเซลส์ ดำเนินโครงการยกระดับการจัดการเรื่องนี้ให้กับผู้ส่งออกไทยที่ส่งสินค้าไปยังตลาดยุโรป โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับองค์กรการค้าภาคเอกชนของสหภาพยุโรป Amfori (เดิมคือ Foreign Trade Association หรือ FTA) ซึ่งเป็นสมาคมภาคธุรกิจของยุโรปที่มีสมาชิกเป็นผู้นำเข้าและผู้ค้าปลีกมากกว่า 2,000 บริษัท และเป็นเจ้าของหลักการจัดการด้านแรงงาน Business Social Compliance Initiatives (BSCI) ที่ภาคธุรกิจยุโรปจะใช้เป็นเครื่องประกอบในการตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ จัดทำโครงการนำร่องเพื่อจัดอบรมเชิงปฏิบัติการจริงในการจัดการด้านแรงงานให้กับผู้ส่งออกและผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตสินค้าส่งออกของไทย ซึ่งได้ดำเนินการมาตลอดปี รวมแล้ว 3 รุ่น มีบริษัทไทยที่เข้าร่วมอบรมทั้งรายใหญ่ และ SMEs รวม 68 บริษัท

"ผู้เชี่ยวชาญของ Amfori ได้ออกไปให้คำแนะนำถึงสถานที่ผลิตแต่ละราย และที่สำคัญ Amfori ได้เป็นตัวกลางที่จะให้บริษัทที่เข้าร่วมอบรมเป็นที่รับรู้รับทราบกับสมาชิกของตัวเอง รวมถึงได้ช่วยประชาสัมพันธ์โดยตรงไปยังสมาชิกทั้งหมดให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลไทยในการปรับปรุงยกระดับการจัดการด้านแรงงานในภาคการผลิตสินค้าของไทยที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยยกระดับภาพพจน์ของอุตสาหกรรมส่งออกไทยในตลาดยุโรปได้ในระดับหนึ่ง" นายสุพพัต กล่าว

ที่ปรึกษาการพาณิชย์ ระบุว่า กิจกรรมที่ทำร่วมกับ Amfori ครั้งนี้ เป็นการจัดสัมมนาเพื่อสรุปผลความสำเร็จของการดำเนินโครงการ หัวข้อ "Sharing Project Best Practices of Social Performance in Thai Supply Chains" ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตสินค้าส่งออกไทยที่ผ่านการอบรมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ได้จากการปรับปรุงยกระดับการจัดการให้ได้มาตรฐานตามที่ตลาดยุโรปต้องการไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจจริงได้อย่างไร ซึ่งจะทำให้ผู้ส่งออกรายอื่นได้รับทราบและเห็นความสำคัญต่อไป

พร้อมมองว่า ตลาดยุโรปยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่มีความสำคัญกับไทยที่มีมูลค่าเฉลี่ยรวมไม่ต่ำกว่า 8 แสนล้านบาทต่อปี และการส่งออก 7 เดือนของปี 2561 มีมูลค่ากว่า 4.6 แสนล้านบาท ดังนั้นการสร้างความมั่นใจในทุกด้านให้กับผู้นำเข้า ภาคธุรกิจ และผู้บริโภคของยุโรปจึงเป็นสิ่งสำคัญที่กระทรวงยืนยันว่าจะติดตามและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้สินค้าไทยสามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง และภาคการผลิตสินค้าส่งออกของประเทศในภาพรวมมีภาพพจน์ที่ดีในตลาดยุโรปต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ