นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ทรงตัวในระดับเดียวกับเปิดตลาดเช้าที่ 32.79 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันแกว่งตัวแคบๆ ในกรอบ 32.79-32.83 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนรอดูความชัดเจนเกี่ยว กับการแก้ปัญหาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
"วันนี้เงินบาทแกว่งตัวแคบๆ ตามภูมิภาค ตลาดค่อนข้างซึม รอดูความคืบหน้าปัญหาข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีน ในช่วง นี้ปัจจัยอื่นๆ ยังไม่ค่อยมีผลต่อตลาดมากนัก" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.75-32.85 บาท/ดอลลาร์
"ข่าวกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว.ที่ออกมาช่วงท้ายตลาดน่าจะส่งผลดีวันพรุ่งนี้ เพราะทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น"
นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 111.45 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.54 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1592 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1594 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,679.39 จุด เพิ่มขึ้น 6.97 จุด, +0.42% มูลค่าการซื้อขาย 59,725.04 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,639.17 ล้านบาท(SET+MAI)
- รมว.คลัง ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังไม่กลับเข้าสู่ระดับเป้า
หมาย แต่อย่างไรก็ดี คงต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) ซึ่งจะมีการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 19 ก.ย.นี้
- สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กำหนดจัดแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนรวม
โครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund : TFFIF) ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ในการเข้า
ถึงแหล่งเงินทุนเพื่อนำมาใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยการระดมทุนจากประชาชนผ่านกลไกของตลาดทุน เพื่อให้หน่วย
งานภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสามารถนำเงินมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศได้อย่างรวดเร็ว
- ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎร (ส.ส.) พ.ศ.2561 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พ.ศ.2561 แล้ว
- สกุลเงินรูปีของอินเดียร่วงหลุดจากแนว 72 รูปีต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยังไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้น
ตัวขึ้น
- เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) จะเรียก
ร้องให้สหภาพยุโรป (EU) สนับสนุนให้สกุลเงินยูโรเป็นสกุลเงินหลักในระบบการค้าโลก เพื่อแข่งกับดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่า นาย
ยุงเกอร์จะหยิบยกประเด็นดังกล่าวในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุมรัฐสภายุโรปในวันนี้
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบธนาคารผ่านทางข้อตกลง reverse repo ในวันนี้ หลังจากที่
ระงับการดำเนินงานไปถึง 15 วันทำการติดต่อกัน เพื่อรักษาสภาพคล่อง
- ธนาคารกลางจีนเผยยอดการปล่อยกู้ใหม่ในสกุลเงินหยวนเดือนส.ค.อยู่ที่ 1.28 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 1.86
แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากระดับเดือนก.ค.ที่ 1.45 ล้านล้านหยวน
- จีนเตรียมขอการอนุมัติจากองค์การการค้าโลก (WTO) ในสัปดาห์หน้าเพื่อทำการคว่ำบาตรสหรัฐ ท่ามกลางความขัด
แย้งทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศที่ลุกลามออกไป
ทั้งนี้ ระเบียบวาระการประชุมของ WTO ระบุว่า จีนจะขออำนาจในการคว่ำบาตรสหรัฐในการประชุมคณะกรรมการไกล่ เกลี่ยข้อพิพาทของ WTO ในวันที่ 21 ก.ย.
- เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้ออกรายงานคาดการณ์ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลให้จีนสูญเสีย
ตำแหน่งงานถึง 700,000 อัตรา หรืออาจมากกว่านั้น หากสงครามการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น
- นักลงทุนบางส่วนยังคงจับตาดูความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างสหรัฐและแคนาดา เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี
อเมริกาเหนือ (NAFTA) เพื่อประเมินทิศทางการลงทุนต่อไป