นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.70 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น วันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.56 บาท/ดอลลาร์
"เช้านี้บาทอ่อนค่า...เมื่อวันศุกร์ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลหลักจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นขึ้นหนุน ดอลลาร์ ขณะที่ตลาดกลับมากังวลข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนอีกครั้ง"นักบริหารเงิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องติดตามภายในประเทศคือผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วง กลางสัปดาห์นี้
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเงินบาทระหว่าง 32.65-32.75 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (14 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.28703% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.44490%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.6550 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 112.03 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ 111.79 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1632 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ 1.1698 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.5850 บาท/
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (17-21 ก.ย.) ที่ 32.30-32.70 บาทต่อ
ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลา เดลเฟีย และเฟดสาขานิวยอร์กเดือนก.ย. ยอดขายบ้านมือสอง ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการขออนุญาตก่อสร้าง เดือนส.ค. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ เดือนก.ค.
- บลจ.ฟูลเลอร์ตัน มาร์เก็ตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศนิวซีแลนด์) วิเคราะห์ค่าเงินตลาดเกิดใหม่ร่วงทั่วโลก
- แบงก์พาณิชย์รุกหนักให้สินเชื่อผ่านแอพ พร้อมลุยหลังกม.ดิจิทัลไอดีมีผลบังคับใช้: ธนาคารพร้อมปล่อยสินเชื่อผ่านดิจิ
- รองกรรมการผู้จัดการสมาคมตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2561 จนถึงปัจจุบันมีเอกชนมาขอ
- ธนาคารกลางฝรั่งเศสเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยระบุว่า เศรษฐกิจของฝรั่งเศสจะ
- ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 100.8 ในเดือนก.ย.
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำสุดนับ
- นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังมีข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์ยังคงมีความตั้งใจที่จะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ถีงแม้นายสตีเวน มนูชิน รมว.
คลังสหรัฐ ได้ส่งจดหมายไปยังเจ้าหน้าที่ของจีน เพื่อเชิญให้เข้าร่วมการเจรจาการค้าครั้งใหม่ และจีนได้ตอบรับคำเชิญแล้วก็ตาม