ดัชนีความเชื่อมั่นทองคำ ต.ค.61 ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้า สวนทางผู้ค้ารายใหญ่มองราคาทองปรับตัวสูงขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 9, 2018 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้จัดการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ต.ค.61 อยู่ที่ระดับ 40.08 จุด จากเดือน ก.ย.61 ที่ระดับ 46.09 จุด คิดเป็นลดลง 6.01 จุด หรือ 13.05%

ปัจจัยราคาทองคำที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1. นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่า นักลงทุนยังคงสนใจแนวทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงประมาณเดือน ธ.ค.61 ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

2.สถานการณืความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่านักลงทุนกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐนกับจีน โดยหวั่นว่าสงครามการค้าจะลุกลามบานปลาย หลังจากล่าสุดสหรัฐฯ กล่าวหาว่าจีนพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งจีนได้ออกมาเรียกร้องให้สรัฐฯยุติการใช้ถ้อยคำและการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ

3.ค่าเงินบาทที่แข็งค่า กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่าเนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อของไทยเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนมีการคาดการณ์ว่าอาจทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ ประกอบกับปัจจัยทางการเมืองในประเทศมีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดี ทำให้ช่วงนี้นักลงทุนต้องระมัดระวังค่าเงินเป็นพิเศษ เพราะหากค่าเงินแข็งค่าต่อเนื่องจะส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศถูกลง ถึงแม้ตลาดทองคำในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

4.การเจรจาการค้าเสรีอเมริกาเหนือ ระหว่างสหรัฐฯและแคนาดา กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่าแนวโน้มที่แคนาดาพร้อมที่จะยอมผ่อนปรนต่อสหรัฐฯ ในการคลี่คลายความขัดแย้งต่อการเจรจาเกี่ยวกับการปรับข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ นาฟดา จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งหากมีการตกลงกันในแบบใดๆก็ตาม จะเป็นแรงหนุนให้กับราคาทองคำ

5.ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่า ความพยายามของสหรัฐฯ ซึ่งหวังว่าจะมีการเจรจาสนธิสัญญากับอิหร่าน โดยรวมประเด็นโครงการขีปนาวุธของอิหร่านและการยุติการสนับสนุนทางการเงินสำหรับฝ่ายต่างๆ ในกรณีความขัดแย้งของซีเรียและเยเมน แต่ทั้งนี้อิหร่านปฎิเสธความพยายามของสหรัฐฯในการจัดเจรจาระดับสูง นับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่าน และ 6 ชาติมหาอำนาจโลกในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่การคว่ำบาตรสินค้าน้ำมันจากอิหร่านของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 พ.ย.61

6. ปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ ในอิตาลี กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่า นักลงทุนจับตาสถานการณ์ด้านงบประมาณของอิตาลีอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดมีรายงานว่า รัฐบาลอิตาลีภายใต้การนำของพรรคไฟว์ สตาร์และพรรคเดอะ ลีก เห็นพ้องให้มีการกำหนดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณปี 2562 ไว้ที่ 2.4% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลชุดก่อนถึง 3 เท่า และคาดว่าจะทำให้สหภาพยุโรป (EU) แสดงความไม่เห็นด้วย เนื่องจากจะทำให้อิตาลีมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นไปอีก

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำระยะสามเดือนในไตรมาสที่ 4/61 (ต.ค.-ธ.ค.) ปรับลดลงจากไตรมาสที่ 3/61 จากระดับ 57.12 จุด มาอยู่ที่ระดับ 46.78 จุด ลดลง 10.34 จุด หรือคิดเป็น 18.10% โดยการปรับตัวลดลงของราคาทองน่าจะมีปัจจัยมาจาก ทิศทางนโยบายทางการเงินของเฟด ปริมาณความต้องการทองคำที่ลดลง แรงขายเก็งกำไรของกองทุน และ ปัจจัยด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 342 ตัวอย่าง พบว่า 43.57% ของกลุ่มตัวอย่างคาดว่าจะซื้อทองคำในช่วงเดือน ต.ค.61 ซึ่งปรับลดลง 1.98% จากเมื่อเดือน ก.ย.ขณะที่ 40.35% ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่ ส่วนอีก 16.08% คาดว่าจะไม่ซื้อทองคำในช่วงเดือนนี้

กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำจำนวน 10 ตัวอย่าง โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน ต.ค.61 คาดว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้น มีจำนวน 5 ราย และคาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือนก่อน มีจำนวน 4 ราย ส่วนที่คาดว่าราคาทองคำจะลดลง มีจำนวน 1 ราย

สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,171 – 1,226 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 18,000 – 18,900 บาท ต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาทไทยให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 31.95 – 32.87 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

การลงทุนทองคำ ผู้ค้าทองรายใหญ่ ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำในช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ค่อนข้างผันผวนและเป็นไปในทิศทางเชิงลบ เนื่องจากเฟดส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปลายปี 61 โดยปัจจุบันราคาทองคำพยายามสร้างฐาน ซึ่งมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,175-1,160 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หากราคาทองสามารถยืนอยู่เหนือระดับดังกล่าวได้ จะมีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,224 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนสะสมกำลังซื้อ เมื่อราคาทองคำย่อตัวลงใกล้บริเวณแนวรับดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ