นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.61/63 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.58 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทจะทรงตัว เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามามีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินมากนัก ตลาดจึงค่อนข้าง เงียบในวันนี้
"วันนี้ตลาดน่าจะเงียบๆ บาทคงทรงตัว เพราะไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.55 - 32.65 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (18 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.27918% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.36034%
- ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.38/40 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 112.53 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1455/1457 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1522 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6000 บาท/
ดอลลาร์
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปีนี้
ยังสามารถเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.8% แต่ก็มีโอกาสจะขยายตัวถึง 5% หากมีปัจจัยสนับสนุนให้สามารถเติบโตได้เต็ม
ศักยภาพ ซึ่งต้องพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง
- ธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง จากทั้งหมด 11 แห่ง ได้ประกาศผลการดำเนินงาน ไตรมาส 3 ปี 61 ได้แก่ ธนาคารทิส
โก้, ธนาคารธนชาต, ธนาคารทหารไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยมีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 17,163.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
4,041.49 ล้านบาท ส่งผลให้ 9 เดือน มีกำไรรวม 45,033.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,369.84 ล้านบาท ส่วนใหญ่ได้รับปัจจัยบวก
จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ หลังสินเชื่อเติบโตและการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย รวมทั้งการบริหารจัดการค่าใช้
จ่ายที่มีประสิทธิภาพ
- ธนาคารทหารไทย (TMB) กล่าวว่า สินเชื่อรวมของธนาคารในปีนี้คงจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 8-
10% จากช่วง 9 เดือนแรกของปีที่เติบโตเพียง 3.3% โดยหลักๆ มาจากสินเชื่อเอสเอ็มอีที่แม้จะปล่อยใหม่ได้ประมาณ 2,000 ล้าน
บาทต่อเดือน ก็ยังไม่ทันกับส่วนที่ถูกรีไฟแนนซ์ออกไปหรือชำระคืน ขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยยังเติบโตได้ดีประมาณ 13% และธนาคารก็ได้
ชะลอการปล่อยสินเชื่อมาระยะหนึ่งแล้วตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเราก็เห็นพ้องด้วยเช่นกัน
- ธปท.แจงสาระสำคัญ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงินใหม่ เปิดทางกำกับแบงก์รัฐ คาดกฎหมายใหม่มี ผลบังคับใช้
เร็วๆ นี้
- ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยผลกระทบแบงก์ชาติคุมสินเชื่อบ้าน ปี 2562 อุปทานเปิดตัวใหม่ลด 20% โอนกรรมสิทธิ์วูบ 5%
- ททท.เล็งปรับเป้าทั้งปีเหลือ 35 ล้านคน รายได้วูบ 1 แสนล้าน หลังทัวร์จีนเมินเที่ยวไทย คาดตรุษจีนวูบอีก 20%
เชื่อฟรีวีซ่าไม่ช่วยเพิ่มยอดท่องเที่ยวสองเดือนสุดท้ายของปีนี้ รมว.ท่องเที่ยวสั่งปฏิรูปดูแลชาวจีน
- ค่าเงินหยวนดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 21 เดือนเมื่อเทียบดอลลาร์เมื่อวานนี้ จากการที่สหรัฐไม่ได้ระบุว่าจีนเป็น
ประเทศที่มีพฤติกรรมบิดเบือนค่าเงิน ส่งผลให้นักลงทุนกดดันหยวนให้อ่อนค่าลงต่อไป นอกจากนี้ หยวนยังถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่า
ขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่
ระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 212,000
ราย
- Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้น 0.5% ใน
เดือนต.ค. ซึ่งดีดตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยดัชนี LEI ถือเป็นสิ่งบ่งชี้
ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคำนวณจากตัวเลขเศรษฐกิจ 10 รายการ ซึ่งรวมถึง คำสั่งซื้อใหม่ของภาคการผลิต, ราคา
หุ้น และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ต.
ค.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ
ไป และมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนธ.ค.ปีนี้
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
สหรัฐ (เฟด) และข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบียยังเป็น
อีกปัจจัยที่ช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
- นักลงทุนจับตาสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองประ
จำเดือนก.ย. ในวันนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย
- นักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอีกครั้ง หลังจากนายแลร์รี คุดโล
ว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า การเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับจีนยังคงไม่มีความคืบหน้า
พร้อมกับระบุว่า จีนทำการค้าอย่างไม่ยุติธรรม และขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย
- นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุม
ประจำวันที่ 25-26 ก.ย. โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจสหรัฐ และควบคุมอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงจากภาวะไร้สมดุลทางการเงิน