ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.60/63 ระหว่างวันแกว่งแคบ สัปดาห์หน้าแนวโน้มอ่อนค่า คาดกรอบ 32.45-32.75

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 19, 2018 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.60/63 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.61/63 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ การซื้อขายในตลาดเงินระหว่างวันค่อนข้างเงียบ เนื่องจากวันนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญที่มีผล ต่อค่าเงินมากนัก สำหรับสัปดาห์หน้าคาดว่าทิศทางเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่า เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์ในสหภาพยุโรป ทั้งกรณี ของ Brexit และปัญหาหนี้สาธารณะของอิตาลี ซึ่งกดดันให้เงินยูโรและเงินปอนด์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

"วันนี้ตลาดค่อนข้างเงียบๆ ไม่มีปัจจัยอะไรมาก แต่สัปดาห์หน้าแนวโน้มเงินบาทอาจอ่อนค่า จากผลของความกังวล สถานการณ์ในยุโรปทั้ง Brexit และหนี้สาธารณะอิตาลี ซึ่งทำให้เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร และปอนด์ เงินบาท ไทยก็อาจจะอ่อนค่าตาม" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.45-32.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.36 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.38/40 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1461 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1455/1457 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,667.91 จุด ลดลง 15.00 จุด (-0.89%) มูลค่าการซื้อขาย 62,260 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 6,179.22 ลบ.(SET+MAI)
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/61 จะขยาย
ตัวที่ 4.3% และตลอดทั้งปี 61 คาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ที่ 4.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขยายตัวได้ 3.9% ทั้งนี้ เป็นผลจากแรงส่ง
ของการบริโภค และการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับผลดีจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ยังคงขยายตัว
ต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดหุ้นจีนในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และไม่
สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของจีนซึ่งมีทิศทางที่เป็นบวกและมีเสถียรภาพ พร้อมระบุว่า ธนาคารกลางจีนจะรักษาสภาพ
คล่องให้อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลและมีเสถียรภาพ เพื่อสนับสนุนตลาดหุ้น เศรษฐกิจ และภาวะแวดล้อมด้านการเงิน ให้มีเสถียรภาพ
ด้วยเช่นกัน
  • ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรหลังตลาดหุ้น
โตเกียวร่วง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 352 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.145% เพิ่มขึ้น 0.005%
จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ส่วนราคาสัญญาล่วงหน้าพันธบัตรอายุ 10 ปี ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.04 จุด แตะที่ 150.22 ที่ตลาดหุ้น
โอซาก้า
  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ยอดเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศในเกาหลีใต้เดือนก.ย.61 ปรับตัวสูงขึ้นต่อ
เนื่องกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากการที่สกุลเงินวอนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ ทำให้ผู้ถือบัญชีเงินฝากลังเลที่จะขายสกุลเงินดอลลาร์
สหรัฐ โดยยอดเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศอยู่ที่ระดับ 7.363 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนก.ย.61 เพิ่มขึ้น 2.32 พันล้านดอลลาร์
จากเดือนก่อนหน้า
  • สัปดาห์หน้าจะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จากธนาคาร
กลางสหรัฐ (FED), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ, ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการ
เงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอียู เดือนต.ค. เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ