CEO บริษัทญี่ปุ่นคาดธุรกิจปีหนูไม่สดใส จากปัญหาซับไพรม์-ราคาน้ำมันแพง

          ผลสำรวจความคิดเห็นของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ในญี่ปุ่น ซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวเกียวโด พบว่า ซีอีโอส่วนใหญ่มองว่าปีพ.ศ.2551 จะเป็นปีที่ธุรกิจในญี่ปุ่นอาจซบเซาลงและต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ซึ่งรวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          "ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบหลายประเทศเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมคาดว่ากิจกรรมทางธุรกิจในปีพ.ศ.2551 จะชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากปัจจัยหลายด้าน อาทิ ราคาน้ำมันแพง และวิกฤตการณ์ในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (ซับไพรม์) ในสหรัฐ" นายโนบูทาดะ ซาจิ ซีอีโอบริษัทซันโตรี่กล่าว
          ขณะที่นายคาซูโอ ฟูรุกาว่า ซีอีโอบริษัทฮิตาชิ ก็มีความคิดเห็นที่สอดคล้องกับซีอีโอของซันโตรี่ และกล่าวเพิ่มเติมว่า ซีอีโอของบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งเริ่มมุ่งเน้นเรื่องการดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามข้อหนดของพิธีสารเกียวโตที่ระบุให้บริษัทญี่ปุ่นลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซลงให้ได้ประมาณ 6% ในปีพ.ศ.2551-2555 
          ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (ทังกัน) ประจำไตรมาส 4 ว่า ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ในญี่ปุ่นปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส
          อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจบ่งชี้ว่า กลุ่มผู้ผลิตขนาดใหญ่ในทุกแวดวงอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นวางแผนที่จะใช้จ่ายในโรงงานและเครื่องมือเครื่องใช้ในโรงงานเพิ่มขึ้น 10.5% ในปีงบประมาณที่สิ้นสุด ณ เดือนมี.ค.ปีหน้า ซึ่งเป็นสถิติที่สูงกว่าในปีงบประมาณ 2549
          ขณะที่ผู้ประกอบการนอกภาคการผลิตวางแผนที่จะใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 10.2% และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กวางแผนที่จะใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 4.6% ซึ่งยังต่ำกว่าปีที่แล้ว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน