ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.89/93 แกว่งในกรอบแคบรอผลประชุม ECB คาดกรอบพรุ่งนี้ 32.85-32.95

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 25, 2018 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.89/93 บาท/ดอลลาร์ จาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.91/93 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยช่วงเช้าปรับตัวอ่อนค่าไปบ้าง แต่เริ่มกลับขึ้นมาช่วงท้ายตลาด ทั้งนี้คาด ว่าปัจจัยที่ตลาดจับตาดูวันนี้ คือ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ของ สหรัฐ

"วันนี้บาทวิ่งในกรอบแคบๆ มีขึ้นไปบ้างในช่วงเช้า และย่อกลับลงมาตอนท้ายตลาด นักลงทุนรอผลประชุม ECB ด้วย"
นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-32.95 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.14/56 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.00/03 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1407/1412 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1401/1412 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,644.33 จุด เพิ่มขึ้น 20.96 จุด (+1.29%) มูลค่าการซื้อขาย 76,086 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 4,129.23 ลบ.(SET+MAI)
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดัชนีหุ้นไทยร่วงแรงว่า ส่วนใหญ่เป็นหุ้นน้ำมัน ซึ่งตอนที่น้ำมัน
ขึ้น หุ้นก็ขึ้น ตอนน้ำมันลงหุ้นก็เลยลง แต่ไม่อยากให้นักลงทุน panic กับเรื่องนี้ เพราะอย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังเป็นตลาด
Save Heaven เมื่อเทียบกับตลาดทั้งหมด
  • นายสมคิด ได้สั่งให้กระทรวงการคลัง ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), บมจ.การบินไทย
(THAI) และภาคเอกชน ออกแพ็คเกจกระตุ้นการท่องเที่ยวเที่ยวในช่วงปลายปี เพื่อเร่งเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้มาตรการมี
ผลในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว
  • ดัชนีความเชื่อมั่นการค้าปลีกไทย ประจำไตรมาสที่ 3/2561 อยู่ที่ 50.0 ซึ่งเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2560
พบว่าในส่วนของรายรับ กำไร และการจ้างงานดีขึ้น อยู่ที่ 51.9, 64.9 และ 79.7 ตามลำดับ ส่วนในด้านต้นทุน และสินค้าคงคลัง
ที่เหลือจากการขาย ลดลงอยู่ที่ 13.0 และ 40.8 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการค้ายังคงฟื้นตัวต่อเนื่องแบบอ่อนๆ เนื่องจากผู้ประกอบการ
ยังคงระวังในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
  • กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยช่วง 9 เดือนแรก
ของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย) ขยายตัวต่อเนื่องที่มูลค่า 1,036,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.14% โดยเป็นการส่งออก 584,791 ล้าน
บาท ลดลง 0.29% และการนำเข้า 452,073 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.80% เกินดุลการค้า 132,718 ล้านบาท
  • สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 นี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่าง
ต่อเนื่อง ปัจจัยหลักมาจากการขยายตัวของภาคส่งออกและการท่องเที่ยวที่เติบโตได้ดี รวมถึงความคึกคักในช่วงใกล้ถึงการเลือกตั้งที่
คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนก.พ.62 ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ช่วยสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย
NIDA คาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 61 มีแนวโน้มขยายตัวได้ 4.5%
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ ระบุว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาวิพากษ์
วิจารณ์เฟดนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในเรื่องนโยบายของเฟดแต่อย่างใด พร้อมระบุว่า การที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่าง
หนักติดต่อกันหลายวันในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ขณะนี้จะยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่
ภาวะถดถอยก็ตาม
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาสภาพ
คล่องในตลาด โดยวันนี้แบงก์ชาติจีนได้ดำเนินการข้อตกลง reverse repo อายุ 7 วัน วงเงิน 1 แสนล้านหยวน (ประมาณ
1.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่อัตราดอกเบี้ย 2.55% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากการดำเนินการเมื่อวานนี้
  • ธนาคารกลางแคนาดา มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% แตะที่ระดับ 1.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต เนื่องจากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งและไม่จำเป็นต้องมีมาตราการ
กระตุ้นใดๆ พร้อมกันนี้ ธนาคารกลางได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของแคนาดาในไตรมาสที่ 3 สู่ระดับ 1.8%
จากระดับ 1.5% และคาดว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 4 จะขยายตัวสู่ระดับ 2.3%
  • นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เตรียมออกเดินทางเยือนจีนในวันนี้ โดยเป็นผู้นำญี่ปุ่นคนแรกในรอบเกือบ 7

ปีที่เดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการ พร้อมความหวังว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีที่กำลังตึงเครียดเข้าสู่ขั้นตอนใหม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ