นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.24/25 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 33.29/31 บาท/ดอลลาร์
ช่วงเช้าเงินบาทอ่อนค่าไปอยู่ในระดับ 33.30 บาท และเริ่มย่อลงมาในช่วงบ่าย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ คงต้องรอดูว่าจะไป ทดสอบที่ระดับ 33.30 อีกหรือไม่ เพราะหากขึ้นไปได้ก็มีโอกาสที่จะอ่อนค่าต่อ แต่ถ้าไม่ทะลุระดับดังกล่าว เงินบาทก็มีแนวโน้มจะย่อ ลง
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20 - 33.40 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 33.2525 บาท/ดอลลาร์
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.79/82 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.58/61 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1375/1379 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1375/1380 ดอลลาร์/ยูโร
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.ย.61 อยู่ที่
111.20 ปรับลดลง 2.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ดัชนีในไตรมาส 3/61 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.0% ส่งผลให้ MPI ในช่วง
9 เดือนปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) ขยายตัวได้ 2.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวกในเดือน ก.ย.นี้
ได้แก่ น้ำตาลทราย, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, น้ำมันปิโตรเลียม, เสื้อผ้าสำเร็จรูป (ผ้าทอ) และเครื่องปรับอากาศ
- เงินหยวนของจีนอ่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี โดยเงินหยวนอ่อนค่าลง 0.15% แตะระดับ 6.9724 หยวน
ต่อดอลลาร์ ภายหลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราอ้างอิงรายวันลง รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและ
สหรัฐที่อาจจะลุกลามไปมากกว่านี้
- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) แถลงว่า CSRC จะสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียน
ของจีนทำการซื้อคืนหุ้น และทำธุรกรรมควบรวมกิจการและซื้อกิจการ พร้อมประกาศว่า CSRC จะปรับปรุงสภาพคล่องในตลาด ลดการ
แทรกแซงการซื้อขายในตลาดโดยไม่จำเป็น และสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้นสำหรับนักลงทุน อีกทั้งจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนระยะ
ยาวเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
- รมว.คลังอังกฤษ เปิดเผยว่า ยุคของการรัดเข็มขัดนั้นใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว หลังจากที่อังกฤษต้องทนปรับลดการใช้จ่าย
สาธารณะเป็นเวลาหลายปี โดยประชาชนผู้ทำงานหนักเริ่มเห็นผลประโยชน์งอกงามแล้ว อย่างไรก็ดี อังกฤษยังต้องจับตาความเคลื่อน
ไหวเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) เพราะหากอังกฤษทำข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (EU)
ไม่ได้แล้ว เศรษฐกิจและการคลังสาธารณะจะได้รับความเสียหาย และอาจต้องกลับมารัดเข็มขัดอย่างเข้มงวดอีกครั้ง
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จัดการประชุมนโยบายระยะเวลา 2 วัน โดยเริ่มในวันนี้วันแรก ซึ่งคาดว่าที่ประชุมจะคง
นโยบายผ่อนคลายทางการเงินไว้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ และมีความเสี่ยงต่างๆ ต่อระบบเศรษฐกิจ ขณะที่นายฮารุ
ฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ตึงเครียดมากขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์:
[email protected]