ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.02 อ่อนค่าจากช่วงเช้าตามภูมิภาค จากดอลล์แข็งรับผลประชุมเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 9, 2018 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 33.02 บาท/ดอลลาร์ จากตอน เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 32.98-33.05 บาท/ดอลลาร์

"สอดคล้องกับตลาดโลกและตลาดภูมิภาคที่ยังเป็นไปตามแรงซื้อแรงขาย ซึ่งมีแรงซื้อดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง ตลาดยังคง รับข่าวจากผลประชุมเฟด ส่วนปัจจัยในประเทศกรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตราการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ส่งผลจำกัดต่อตลาดเงิน น่าจะส่งผลต่อตลาดหุ้นมากกว่า"นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ที่ 12 พ.ย.ไว้ระหว่าง 32.95-33.10 บาท/ ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.89 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 113.90 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1335 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1359 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,668.52 จุด ลดลง 13.21 จุด, -0.79% มูลค่าการซื้อขาย 34,753.54 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,834.21 ลบ.(SET+MAI)
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ใน
การประชุมในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 รวมถึงการประชุมรอบสุดท้ายในเดือนธันวาคม แม้ว่าคณะกรรมการบางท่านจะเริ่มส่ง
สัญญาณถึงความพร้อมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงินของไทย แต่คงต้องยอมรับว่าโอกาสที่ กนง. จะปรับขึ้นนโยบายการ
เงินในปีนี้คงมีไม่มาก หลังจากที่ภาคเศรษฐกิจต่างประเทศของไทย ทั้งการท่องเที่ยวและการส่งออกมีสัญญาณอ่อนแรงลงพร้อมกัน
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมาประกอบการพิจารณา โดยจะ
เริ่มใช้เกณฑ์ใหม่กับสัญญากู้ซื้อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.62 เป็นต้นไป โดยจะยกเว้นกรณีที่มีสัญญาจะซื้อจะขายก่อนวัน
ที่ 15 ต.ค.61 เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ที่วางแผนซื้อที่อยู่อาศัยหรือผ่อนดาวน์อยู่ก่อนแล้ว จากก่อนหน้าที่ ธปท.คาดว่าจะเริ่มบังคับใช้
ตั้งแต่ 1 ม.ค.62
  • ผู้จัดการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พฤศจิกายน 2561 ปรับเพิ่มขึ้นจากเมื่อ
เดือน ตุลาคม ที่ผ่านมา จากระดับ 40.08 จุด มาอยู่ที่ระดับ 65.82 จุด เพิ่มขึ้น 25.74 จุด หรือคิดเป็น 64.22% ปัจจัยที่ทำให้
ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นนั้น น่าจะมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เงินบาทอ่อนค่าหนุนราคา
ทองคำในประเทศ และแรงซื้อเก็งกำไร
  • ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีสถานการณ์ทางธุรกิจ มีการ
ฟื้นตัวอย่างอ่อนๆ แต่ระยะปานกลางและระยะยาวยังไปได้ดี ซึ่งหากสถานการณ์เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมา ก็เชื่อความสามารถในการแข่ง
ขันของธุรกิจ SMEs จะสามารถฟื้นกลับมาในอัตราเร่งได้ตามปกติ ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงกลางปี 62
  • ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือ ไอแบงก์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอให้คณะกรรมการ
นโยบายการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาแผนเพื่อขยายธุรกิจหลังได้รับเงินเพิ่มทุน จำนวน 1.81 หมื่นล้านบาท
จากกระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว
  • คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือบอร์ด EEC กำหนดให้การลงทุนในอุตสาหกรรม
เป้าหมายพิเศษใน EEC ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 500,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี โดยร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่ง
เสริมการลงทุน (BOI) ดึงการลงทุนเป้าหมาย 100,000 ล้านบาทต่อปี
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ
ขยายตัว 2.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับการขยายตัวในเดือนก.ย.
  • รัฐบาลจีนกำหนดเพดานเงินกู้ที่จะอนุมัติให้กับบริษัทภาคเอกชน ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดในการช่วยให้เศรษฐกิจ

ขยายตัว ท่ามกลางความเสี่ยงเรื่องหนี้เสีย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ