นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับ กรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน กรมทรัพย์สินทางปัญญา และภาคเอกชนจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวแห่งประเทศไทยกับสมาคมโรงสีข้าวไทย ได้จัดงาน The International Rice and Rice Products Business Matching ระหว่างวันที่ 7-10 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเชิญผู้นำเข้าจากทั่วโลกกว่า 28 ประเทศ 165 บริษัท พบกับผู้ส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวของไทยจำนวน 171 รายนั้น ปรากฏว่า เกิดการจับคู่ทางการค้ามากกว่า 1,000 คู่ สามารถตกลงสั่งซื้อสินค้าทันทีภายในงานจำนวน 46.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,542 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 8.5% โดยข้าวที่มีการสั่งซื้อมากที่สุด ได้แก่ ข้าวขาว ข้าวหอมปทุม ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้องชนิดต่างๆ เป็นต้น รวมยอดสั่งซื้อภายใน 1 ปี คาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 30,000 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
สำหรับการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าครั้งนี้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ซึ่งนับเป็นมาตรการส่งเสริมตลาดเพื่อดูดซับผลผลิตในช่วงต้นฤดูและสร้างความมั่นใจด้านการตลาดให้แก่เกษตรกร ในปี 61/62 แม้ว่าราคาข้าวของไทยโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ จะมีผลผลิตจำกัดทำให้ราคาค่อนข้างสูง แต่ลูกค้าจากต่างประเทศยังมั่นใจในคุณภาพของข้าวไทย ผนวกกับการให้บริการอย่างมืออาชีพของผู้ประกอบการไทยส่งผลให้ยอดการสั่งซื้อเติบโตอย่างต่อเนื่อง
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในมาตรการเพื่อดูแลพี่น้องชาวนาที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว ได้แก่ การหารถเกี่ยวข้าวราคาถูก การชดเชยเก็บข้าวในยุ้งฉาง เป็นต้น สำหรับการขยายตลาดข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวในปี 2562 มุ่งเพิ่มกิจกรรมทั้งด้านออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กันไป อาทิ การมอบรางวัลมิตรแท้ข้าวไทยดีเด่น (Best Friend of Thai Rice Award) ให้แก่ ผู้นำเข้า/กระจายสินค้าไทยในต่างประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายในการขยายตลาดอย่างยั่งยืน
ส่วนการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยร่วมกับผู้นำกระแสการค้า (Trade Influencer) ซึ่งเป็นการเจาะกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังในการบริโภคสูง ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพดี โดยเฉพาะตลาดจีน สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา เป็นต้น ขณะที่ด้านออนไลน์ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ พิธีลงนามความร่วมมือกับ JD.com พร้อมทั้งประกาศการสั่งซื้อสินค้าข้าว ข้าวสี และผลิตภัณฑ์ข้าวจากเกษตรกร สหกรณ์ และ ผู้ประกอบการไทย พิธีลงนามความร่วมมือกับ King Wai Group เพื่อคัดเลือกสินค้าอาหาร อาหารสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ข้าว วางจำหน่ายในศูนย์จำหน่ายสินค้านำเข้า IMX 365 exhibition hall ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ และเว็บไซต์ KJT.com cross border e-commerce แห่งแรกของจีน 3) วางแผนการตลาดการจัดซื้อสินค้าข้าวและผลไม้ร่วมกับ Hema Fresh ซึ่งทั้ง 3 โครงการนี้จะดำเนินการได้ทันทีตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2561