(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.91/93 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดคาดกนง.วันนี้คงดอกเบี้ยแต่จับตาการส่งสัญญาณปรับดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 14, 2018 14:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.91/93 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า ขึ้นจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.04 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวาน เป็นผลจากเงินยูโรและเงินปอนด์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจาก การเจรจา Brexit ระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรปเริ่มมีความคืบหน้า ในขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้ต้องจับตาการประชุมคณะ กรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยเน้นไปที่มติ กนง.ว่าจะมีเสียงแตกเพิ่มขึ้นหรือไม่ในการให้ปรับขึ้นดอกเบี้ย

"วันนี้ต้องดูผลประชุม กนง.ซึ่งตลาดยังคาดว่าคงดอกเบี้ย แต่ต้องดูว่าคณะกรรมการจะเสียงแตกเพิ่มขึ้นหรือไม่ จากเดิม ที่มีกรรมการ 2 คนให้ขึ้นดอกเบี้ย คงต้องดูว่ารอบนี้จะเพิ่มเป็น 3 คนหรือไม่ ถ้าเสียงแตกเพิ่มขึ้นเงินบาทก็มีโอกาสแข็งค่าต่อ" นัก บริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75-33.05 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (13 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.31491% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.42971%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.8508 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนเช้านี้อยู่ที่ระดับ 113.92/94 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 114.09 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1303/1305 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1231 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0020 บาท/
ดอลลาร์
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุมพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายวันนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ตลาดยังคาดการณ์ว่า
รอบนี้ กนง.ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมที่ 1.50% แต่ต้องจับตาถ้อยแถลงภายหลังการประชุมว่าจะมีสัญญาณในการปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้หรือไม่
  • นักลงทุนในตลาดและนักวิเคราะห์เศรษฐกิจยังคงประเมินว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 14 พ.
ย.นี้ จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี และจะปรับขึ้น 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% ช่วงปลายปี หรือช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะติดตามดู
อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และความเคลื่อนไหวของเงินทุนไหลออก รวมถึงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อเป็นหลัก
  • ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าเอสเอ็มอี ธนาคารทหารไทย (ทีเอ็มบี) เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปีที่
ผ่านมา ยอดคงค้างสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารเติบโตประมาณ 2% หรือมียอดคงค้างรวม 90,000 ล้านบาท และคาดว่า ณ สิ้นปีจะ
อยู่ที่ 91,000-92,000 ล้านบาท เติบโต 0-2% ขณะที่ยอดสินเชื่อใหม่เติบโตที่ 42% หรือมียอดปล่อยกู้ประมาณ 1,000-2,000 ล้าน
บาท เนื่องจากฐานที่ต่ำในปีก่อน
  • รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนลงนามความตกลงพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียนแล้ว มั่นใจช่วยอำนวยความสะดวก
สร้างความเชื่อมั่นทำธุรกิจ และช่วยผลักดันการค้าขายออนไลน์ในอาเซียน เหตุมีการคุ้มครองผู้บริโภค ป้องกันภัยไซเบอร์ มีกฎ
ระเบียบที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน คาดบังคับใช้ต้นปี 62
  • รัฐบาลอิตาลีปฏิเสธที่จะทบทวนร่างงบประมาณประจำปี 2562 แม้มีข้อกำหนดว่าร่างงบประมาณของประเทศสมาชิก
สหภาพยุโรป (EU) จะต้องสอดคล้องกับกฎระเบียบด้านการคลังของ EU ก็ตาม
  • นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมยื่นร่างข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป
(Brexit) ต่อรัฐสภาอังกฤษในวันนี้ หลังจากตัวแทนการเจรจาจากอังกฤษและ EU สามารถตกลงกันเกี่ยวกับร่างข้อตกลง Brexit
  • สกุลเงินปอนด์และยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้
(13 พ.ย.) ขานรับรายงานที่ว่า เจ้าหน้าที่ตัวแทนการเจรจาจากอังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) สามารถตกลงกันเกี่ยวกับร่างข้อ
ตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่
ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับ
ขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค., จำนวนผู้
ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index)
เดือนพ.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. และการผลิต
ภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ