พาณิชย์ ตั้งเป้าส่งออกไปจีนโต 12% ทะลุ 5 หมื่นล้านดอลล์ปี 62 เน้นบุกเจาะพื้นที่ศักยภาพใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 15, 2018 11:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 62 กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าการส่งออกไปจีนไว้ที่ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 12% โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีแผนที่จะบุกเจาะตลาดรายมณฑล เพื่อขยายการค้าไปยังพื้นที่ศักยภาพใหม่ของจีน นอกเหนือจากพื้นที่ตลาดหลักเดิมอย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว โดยจะเจาะหัวเมืองด้านในที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง มีชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น อาทิ เฉิงตู ฉงชิ่ง และซีอาน รวมทั้งเมืองท่าสำคัญอย่าง ชิงต่าว และเซี่ยะเหมิน และมณฑลด้านตะวันตกของจีน ที่มีการพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อกับตลาดยุโรป ตามเส้นทาง Belt and Road ของจีน และยังมีกลยุทธ์ในการเร่งขยายการส่งออกสินค้าและบริการของไทย และเพิ่มโอกาสผ่านช่องทางการค้าสมัยใหม่ อาทิ E-Commerce เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย

ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่อาจส่งผลให้การส่งออกของไทยไปจีนชะลอตัวลงบ้าง โดยเฉพาะสินค้าส่งออกที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานการผลิตของจีน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะผลักดันการส่งออกไปยังตลาดอื่นเพื่อทดแทนแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสของไทยที่จะขยายการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยไปจีน เพื่อทดแทนการนำเข้าจากสหรัฐฯ รวมทั้งยังมีโอกาสในการส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้น จากการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ประกาศร่วมมือกับนานาชาติด้านการค้า และตั้งเป้าจะนำเข้าสินค้าและบริการจากต่างประเทศ ในอีก 15 ปีข้างหน้า เป็นมูลค่าถึง 40 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในงาน China International Import Expo ที่นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา

นายดวงอาทิตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–จีน (ACFTA) ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้ากับจีน และมีสินค้าราคาถูกของจีนทะลักเข้ามาขายในไทย ว่า กรมฯ ได้มีการตรวจสอบสถิติการค้าระหว่างไทย-จีน หลังจากที่ได้มีการจัดทำ FTA อาเซียน-จีน ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546 พบว่ามูลค่าการค้าได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากมูลค่า 11,691 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2546 เพิ่มขึ้นเป็น 73,745 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2560 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 5.3 เท่า โดยเป็นการส่งออกของไทยไปจีนมูลค่า 29,506 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 24% จากปี 2559 และการนำเข้าจากจีน มูลค่า 44,239 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.3% จากปี 2559

ส่วนในช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) มูลค่าการค้าอยู่ที่ 59,154 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออกไปจีน 22,247 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากจีน 36,907 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการนำเข้าส่วนใหญ่กว่า 70% เป็นสินค้าทุน เช่น เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องจักรกล และสินค้าวัตถุดิบ เช่น เคมีภัณฑ์ ผ้าผืน ซึ่งไทยนำเข้ามาเพื่อใช้ในการผลิตต่อเป็นสินค้าสำเร็จรูปทั้งใช้ภายในประเทศและส่งออกต่อ ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าส่งออกของไทยในภาพรวม และส่งเสริมศักยภาพการเป็นห่วงโซ่คุณค่าของไทยในระดับภูมิภาคและระดับโลก ตามนโยบายของรัฐบาลที่ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาค

"การค้าไทย-จีน ผ่าน FTA อาเซียน-จีน ช่วยขยายการส่งออกของไทยไปจีนในช่วง 15 ปี ที่ผ่านมา โตถึง 530% ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบธุรกิจและผู้ส่งออกของไทยอย่างมาก และแม้ว่าการนำเข้าของไทยจากจีนในช่วง 15 ปี ที่มี FTA อาเซียน–จีน จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมของไทย" นายดวงอาทิตย์ กล่าว

ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบการไทยมีความกังวลว่าสินค้านำเข้าจากจีน จะก่อให้เกิดความเสียหายกับอุตสาหกรรมภายในประเทศ ก็สามารถขอให้กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศพิจารณาใช้มาตรการปกป้อง (Safeguard) มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping: AD) และมาตรการต่อต้านการอุดหนุน (Countervailing Measures: CVD) กับสินค้าที่ทะลักเข้ามา เพื่อเก็บภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจากจีนได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ