ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.90 อ่อนค่าจากช่วงเช้า หลังตัวเลข GDP ของไทย Q3/61 ออกมาต่ำกว่าคาด

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 19, 2018 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.90 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดเช้าที่ระดับ 32.86 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันค่าเงินบาทผันผวนหลังตัวเลขจีดีพีช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ออกมาแย่กว่าที่ ตลาดคาดการณ์ไว้มาก แต่เมื่อพิจารณาลงไปในรายละเอียดแล้วพบว่าการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนยังขยายตัวได้ดี ส่วนที่มี ปัญหามาจากการชะลอตัวด้านการท่องเที่ยวและการส่งออก โดยวันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.00 บาท/ดอลลาร์

"หลังสภาพัฒน์ประกาศตัวเลขออกมาบาททยอยอ่อนค่าไปแตะ 33.00 ระหว่างวันผันผวนมาก" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดเงินบาทวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.00 บาท/ดอลลาร์

"พรุ่งนี้คาดว่าบาทยังแกว่งตัวในกรอบเดียวกับวันนี้" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 112.67 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.70 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1421 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1408 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,636.48 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด, +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 29,913.87 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 469.28 ล้านบาท(SET+MAI)
  • สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยใน
ไตรมาส 3/61 ขยายตัว 3.3% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวถึง 4.6% เป็นไปตามอุปสงค์
ภาคต่างประเทศ ขณะที่อุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่สภาพัฒน์ ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยทั้งปี 61 มาที่เติบโต 4.2% หรืออยู่ที่ กรอบล่างของคาดการณ์เดิมที่ 4.2-4.7% เนื่องจากคาดว่าการส่งออกทั้งปีจะขยายตัวเหลือเพียง 7.2% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว ได้ 10% ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะเติบโต 16.2% จากเดิมคาดไว้ที่ 15.4%

  • สภาพัฒน์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 62 จะขยายตัวได้ 4.2% หรืออยู่ในกรอบ 3.5-4.5%
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 จะกลับมาขยายตัวสูงกว่าในไตรมาส 3 ที่มี
ผลของปัจจัยชั่วคราว
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า ในภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปีนี้จะขยายตัว 4% โดยมีปัจจัย
สำคัญทั้งเรื่องการส่งออก การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภาครัฐต้องเป็นไปตามเป้า
  • เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ BOI ที่มีพล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุน 3 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 21,774.6 ล้านบาท เป็น
กิจการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และกิจการบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง

ขณะที่การส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.61) มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 1,125 โครงการ เงินลงทุนทั้งสิ้น 377,054 ล้านบาท จำนวนโครงการเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10% (ม.ค.-ก.ย.60 จำนวน 1,021 โครงการ) ขณะที่เงินลงทุนใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 373,908 ล้านบาท

  • รัฐบาลญี่ปุ่นได้แสดงความกังวลถึงผลกระทบจากความขัดแย้งรุนแรงระหว่างจีนและสหรัฐที่อาจเกิดขึ้นกับการเติบโต
ของโลก หลังจากผู้นำของทั้งสองประเทศได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งกันและกัน ระหว่างการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
เอเชียแปซิฟิก (เอเปก) จนส่งผลให้ที่ประชุมต้องประกาศยกเลิกการออกแถลงการณ์ร่วมของประเทศสมาชิกหลังเสร็จสิ้นการประชุม
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้แสดงความวิตกกังวลว่า การที่ธนาคารระดับภูมิภาคของญี่ปุ่นมีกำไรลดลง อัน
เป็นผลจากการที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานนั้น อาจทำให้ระบบการเงินของประเทศขาดเสถียรภาพ และสร้างความ
เสียหายให้กับเศรษฐกิจญี่ปุ่นในท้ายที่สุด
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนและธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ลงนามในข้อตกลงสว็อปค่า
เงิน โดยข้อตกลงฉบับนี้จะมีอายุ 3 ปี และสามารถต่ออายุข้อตกลงได้ หากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน
  • มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ เปิดเผยในรายงานว่า แนวโน้มตลาด
เกิดใหม่นั้นมีเสถียรภาพในหลายประเทศในปี 2562 แม้ว่าจะเผชิญปัญหาจากปัจจัยต่างๆทั่วโลกก็ตาม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ