พาณิชย์ มั่นใจส่งออกปี 61-62 โตตามเป้าหมายที่ 8% หลังประเมินผลกระทบสงครามการค้า-FX-ราคาน้ำมันแล้ว

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 20, 2018 17:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯ ยังมั่นใจว่ามูลการส่งออกปี 61 จะเติบโตเพิ่มจากปี 60 ได้ 8% ตามเป้าหมาย ด้วยมูลค่า 255,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ (ต.ค.-ธ.ค.) จะต้องส่งออกให้ได้เดือนละ 21,900 ล้านเหรียญฯ ส่วนปี 62 ที่ตั้งเป้าหมายขยายตัว 8% มูลค่า 276,000 ล้านเหรียญฯ นั้นก็มั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายได้แน่นอนเช่นกัน

"จากการประเมินเป้าหมายมูลค่าการส่งออกในปีหน้าร่วมกับทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และภาคเอกชนนั้นได้รวบรวมผลกระทบด้านต่างๆ ไว้หมดแล้ว ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน อัตราแลกเปลี่ยน และน้ำมันดิบ"

ทั้งนี้ กรมฯ ได้แบ่งตลาดที่จะผลักดันการส่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มตลาดที่ยังขยายตัวได้ดี ได้แก่ อาเซียน ประเมินว่าปีหน้า การส่งออกไทยไปอาเซียนจะขยายตัวได้ 8.3% โดยไทยจะใช้โอกาสในการเป็นประธานอาเซียนจัดกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องของอาเซียนในไทย และจัดงานแสดงสินค้าอาเซียนในไทย ซึ่งจะส่งผลให้ยอดสั่งซื้อสินค้า และการลงทุนเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีแผนในการสร้างแบรนด์สินค้าไทย ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

ส่วนตลาดเอเชียใต้ที่ตั้งเป้าเติบโต 8% จะเน้นตลาดอินเดียที่ต้องให้ความสำคัญในระดับเดียวกับตลาดจีน โดยจะกลุ่มมหาเศรษฐี (ซุปเปอร์ ริช) ขณะที่ตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ กรมฯจะจัดส่งกำลังคนเข้าไปประจำเพิ่มเติม เพื่อเจาะตลาดให้ได้มากขึ้น โดยสินค้าที่มีโอกาสคือ สินค้าเกษตร อาหาร เครื่องจักร และวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งธุรกิจบริการ ส่วนตลาดอเมริกาใต้ ตั้งเป้า 6% จะใช้สำนักงานทูตพาณิชย์ที่เม็กซิโก เป็นศูนย์กลางในการเจาะตลาดเข้าไปอเมริกาใต้

สำหรับตลาดรัสเซียและซีไอเอสตั้งเป้า 10% จะใช้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทย ในการโปรโมทสินค้าและส่งเข้าไปขาย โดยจะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำแผนผลักดันนักท่องเที่ยวและสินค้าควบคู่กันไป ด้านตลาดจีน จะเพิ่มกำลังคนไปตลาดแห่งนี้ เพื่อเจาะตลาดเป็นรายมณฑล โดยเฉพาะจีนตอนเหนือและตะวันตก ที่สินค้าไทยยังเข้าไปไม่มากนัก รวมทั้งจะใช้ประโยชน์จากนโยบายวันเบลต์วันโรด ในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้น

ขณะที่ตลาดหลัก ทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่ไม่แจ่มใส กรมฯจะปรับแผนในการเจาะตลาดสินค้า โดยจะใช้กลยุทธ์การเจาะแบบปกติไมได้แล้ว แต่ต้องแบ่งกลุ่มให้ชัดเจน เช่น ผู้ส่งออกจะส่งออกสินค้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าใด ต้องแสดงตัวให้แน่ชัด เช่น ตลาดสินค้ากลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มรักสุขภาพ เป็นต้น ต้องทำให้ชัดเจน เพราะมองว่าหากแยกตลาดได้ชัดเจน สินค้าไทยก็ยังมีโอกาสในตลาดหลัก โดยสินค้าที่จะเป็นอนาคตของตลาดเหล่านี้คือ สินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าอาหาร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ