CAT รุกบริการ CAT cyfence มุ่งเจาะตลาดเอกชนกลุ่มธนาคาร-สถาบันการเงิน-ประกันภัยรองรับพ.ร.บ.ไซเบอร์

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 23, 2018 12:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวกัณณิกา วรคามิน ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) กล่าวถึงบริการรักษาความปลอดภัยระบบสารสนเทศ (IT Security) ภายใต้แบรนด์ "CAT cyfence"ว่า ลูกค้าธนาคารชั้นนำของไทยไว้วางใจใช้บริการของ CAT cyfence มานานกว่า 10 ปี และวันนี้มีสถาบันการเงินอื่นๆ ที่เริ่มให้ความสนใจใช้บริการมากขึ้น เช่น กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์

ปัจจุบัน CAT cyfence ให้บริการลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมประมาณ 200 รายทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ในปี 62 ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้าเอกชนเป็น 40% และภาครัฐ 60% จากปีนี้ที่มีสัดส่วนลูกค้าในกลุ่มภาครัฐประมาณ 70% เอกชน 30%

"ผลประกอบการในปีนี้โตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 15% มั่นใจสิ้นปีทะลุเป้า 150 ล้านบาท ส่วนการทำตลาดในปีหน้าจะเริ่มเจาะตลาดเอกชนมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสถาบันการเงินและประกันภัย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องการความปลอดภัยทางด้านการรักษาข้อมูลสูงขึ้น ทั้งจากกฎระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 รวมถึงร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่เตรียมประกาศใช้ในเร็วๆ นี้"

จุดเด่นของเราคือการมีศูนย์ SOC หรือ Security Operation Center พร้อมมีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มีประสบการณ์และได้รับการฝึกอบรมด้านเทคนิคสำหรับบริการ IT Security โดยตรงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า รวมไปถึงยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับการป้องกันภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ได้ทันกับสถานการณ์ โดยเน้นการให้บริการในรูปแบบของโซลูชันที่มีความหลากหลายของบริการและครอบคลุมแบบครบวงจร เช่น บริการให้คำปรึกษา บริการป้องกันการโจมตีเว็บไซต์บริการจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด เป็นต้น

นางสาวกัณณิกา กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การทำตลาดของเราจึงเน้นส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้วยการจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านความปลอดภัยระบบสารสนเทศในธุรกิจ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจงและสามารถให้ตอบสนองให้บริการได้อย่างเหมาะสมและตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง

โดยล่าสุดได้จัดสัมมนาให้ความรู้ด้านการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดกับระบบสารสนเทศที่สำคัญของสหกรณ์ออมทรัพย์ อันจะช่วยให้สามารถบริการได้อย่างต่อเนื่องให้กับผู้บริหารและผู้แทนสหกรณ์ออมทรัพย์ 50 องค์กรในนามชมรมสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจ ที่ให้ความสำคัญมากขึ้นกับการความปลอดภัยระบบข้อมูลและการป้องกันความเสียหายของข้อมูลในที่จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น

นายไพบูลย์ แก้วเพทาย ประธานชมรมสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจ กล่าวว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ถือเป็นสถาบันการเงินที่ดูแลสินเชื่อและเงินฝากทั่วประเทศรวม 2.4 ล้านล้านบาท จึงต้องมีหลักการบริหารที่ดีทั้งความมั่นคงและการบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลในระบบของสหกรณ์ออมทรัพย์ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก หากข้อมูลเสียหายความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจะหายไป ตรงนี้ถือเป็นหัวใจของสถาบันการเงินซึ่งสหกรณ์ออมทรัพย์ต้องให้ความสำคัญไม่ต่างจากระบบของสถาบันการเงินที่เป็นธนาคารพาณิชย์

"ข้อมูลสำคัญมีความเสี่ยงที่จะเสียหายได้ตลอดเวลาทั้งจากไวรัส การชุมนุมจลาจล และภัยธรรมชาติเช่น น้ำท่วม ระบบของสหกรณ์ออมทรัพย์ฯได้ละเลยเรื่องนี้มานาน ปัจจุบันกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์เติบโตขึ้น ปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นมากมาย แต่คุณภาพที่เราจะดูแลการสำรองข้อมูลเหล่านี้ยังก้าวไม่ทันกับปริมาณข้อมูลและยอดที่ขยาย วันนี้ในยุคดิจิทัลเรามีทางเลือกที่สำคัญในการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่จะทำการสำรองข้อมูลอย่างเป็นระบบและไว้วางใจได้ด้วยบริการจากหน่วยงานที่มั่นคง ชมรมสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจถือว่าการสำรองข้อมูลที่สำคัญนี้คือความรับผิดชอบต่อสมาชิก ดยมั่นใจว่าบริการจาก CAT ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มั่นคงแข็งแรงจะสามารถดูแลระบบของเราได้ตลอด"นายไพบูลย์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ