ผู้ว่าฯกทม. ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก่อนเปิดทดลองให้บริการ 6 ธ.ค.นี้, คาดโอนทรัพย์สินแล้วเสร็จมี.ค.62

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 27, 2018 14:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร กรุงเทพธนาคม และบมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานีสำโรง ไปถึงสถานที่เคหะสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง จากนั้นขึ้นรถไฟฟ้าต่อเพื่อไปเยี่ยมชมศูนย์ซ่อมบำรุง เพื่อตรวจสอบความพร้อมก่อนเปิดทดลองให้บริการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายสายใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ โดยบีทีเอสได้ทดสอบการเดินรถอย่างต่อเนื่อง ทั้งใช้รถขบวนเก่าและรถขบวนใหม่ 3 ขบวน เพื่อให้ประชาชนทดลองใช้ฟรี 4 เดือน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. โดยจะเร่งหารือบีทีเอสเพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสาร เบื้องต้น กรุงเทพมหานครมีนโยบายให้เพดานค่าโดยสารทั้งโครงการส่วนแรกในสายสุขุมวิทและสีลมและส่วนต่อขยายสูงสุดไม่เกิน 65 บาท ซึ่งต้องได้ข้อสรุปก่อนเปิดเดินรถจริงในเดือนเม.ย.62 หลังการทดลองเสร็จสิ้น

ส่วนการลงนามบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยู เรื่องการจำหน่ายและโอนทรัพย์สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และ (ใต้) แบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทางรวม 32 กม. งบประมาณ 51,785 ล้านบาท กับ รฟม. ขณะนี้ร่างลงนามเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาภายในเดือนพ.ย.นี้ เพื่อให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเปิดเดินรถในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ โดยต้องโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้แล้วเสร็จในเดือนมี.ค.62 ก่อนเปิดให้บริการเป็นทางการต่อไป

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็นโครงการรถไฟฟ้าแบบยกระดับตลอดเส้นทาง ระยะทาง 13 กม. จำนวน 9 สถานี เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ แนวเส้นทางเริ่มต้นต่อเนื่องจากแนวเส้นทางของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร บีทีเอส ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทตอนที่ 1 ช่วงอ่อนนุช-แบริ่งบริเวณซอยสุขุมวิท 107 ไปตามแนวเกาะกลางถนนสุขุมวิท ผ่านคลองสำโรง ผ่านแยกเทพารักษ์ แยกปู่เจ้าสมิงพราย เมื่อถึงบริเวณจุดตัดกับโครงการถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ แนวจะเปลี่ยนจากเกาะกลางไปทางทิศตะวันตกของถนนสุขุมวิท เพื่อข้ามทางต่างระดับสุขุมวิท จากนั้นจึงเปลี่ยนกลับมาอยู่ในแนวเกาะกลางถนนสุขุมวิท ผ่านแยกศาลากลาง แยกการไฟฟ้า แยกแพรกษา แยกสายลวดจนถึงจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณหน้าสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง โดยแนวเส้นทางจะเบี่ยงออกทางด้านทิศตะวันตกและลดระดับเพื่อเข้าศูนย์ซ่อมบำรุง

ในส่วนการก่อสร้างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เริ่มการก่อสร้างงานโยธาและงานรางตั้งแต่ต้นปี 2555 จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยประมาณต้นปี 2560 จากนั้นกรุงเทพมหานครได้เริ่มเข้าดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลเมื่อเดือนต.ค. 2559 และสามารถเปิดเดินรถได้ 1 สถานีที่สถานีสำโรง ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา หลังจากนั้น กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลในส่วนที่เหลือทั้งหมด รวมทั้งได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ และทดสอบการเดินรถเสมือนจริงในเดือนต.ค.-พ.ย.2561 เพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีความพร้อมและมีความปลอดภัยสำหรับการเปิดใช้งานให้บริการแก่ประชาชน

สำหรับศูนย์ซ่อมบำรุงของโครงการมีพื้นที่ประมาณ 123 ไร่ ในพื้นที่ประกอบด้วย อาคารบริหารและศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการเดินรถ อาคารซ่อมบำรุงหลัก อาคารจอดรถไฟฟ้า รางทดสอบ และอาคารประกอบอื่นๆ นอกจากนี้ รฟม. ได้จัดให้มีอาคารจอดรถแล้วจร 1 แห่ง ตั้งอยู่บริเวณสถานีเคหะสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานีปลายทางเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ สามารถจอดรถรวมกันได้ประมาณ 1,200 คัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ