ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.74/78 ทรงตัวรอปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 32.70-32.90 ,จับตาทิศทางเงินทุนไหลเข้า

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 4, 2018 09:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.74/78 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใน ระดับเดียวกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินเข้ามา ช่วงนี้คงต้องจับตาดูทิศทางการไหล ของเงินทุนจากต่างประเทศ

"เปิดตลาดเช้านี้ทรงตัว เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่ คงต้องจับตาดู flow" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-32.90 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (3 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.27818% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.42989%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 113.20/40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.33/35 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1350/1375 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1350/1380 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.8030 บาท/
ดอลลาร์
  • สมาคมตราสารหนี้ เผยดัชนีคาดการณ์ดอกเบี้ยล่าสุดขยับแตะ 74 สะท้อนมุมมอง "บอนด์ดีลเลอร์-ผู้จัดการ กองทุน"
ประเมินกนง.ขยับดอกเบี้ยขึ้น ในการประชุมเดือนนี้ ด้าน "ไพบูลย์" เชื่อไม่กระทบตลาดหุ้น เหตุนักลงทุนรับข่าวแล้ว ขณะหุ้นไทยบวก
แรง 30 จุด อานิสงส์ "จีน-สหรัฐ" พักรบสงครามการค้า
  • รมว.คลังเผยปัจจุบันรัฐบาลจัดเก็บรายได้ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย โดยผลการจัดเก็บรายได้เดือนตุลาคม 2561
เป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 จัดเก็บรายได้สุทธิ 206,452 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 10,462 ล้านบาท หรือ
5.3% แสดงให้เห็นว่าการจัดเก็บรายได้ยังเป็นไปตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลาย
แสนล้านบาท ทำให้รัฐบาลต้องจัดงบประมาณขาดดุล ล่าสุดประเมินว่า การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลจะเข้าสู่จุดสมดุลในช่วง 12
ปี ข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่การใช้งบประมาณเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนั้นดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว
  • "พาณิชย์" เผยเงินเฟ้อเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 0.94% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 24 จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน
และอาหาร แต่เพิ่มในอัตราที่ชะลอตัวลง คาดทั้งปีเงินเฟ้อน่าจะอยู่ที่ 1.11-1.2% สูงสุดในรอบ 4 ปี ส่วนปี 62 คาด 0.7-1.7% มี
ค่ากลางอยู่ที่ 1.2%
  • "สมคิด"เตรียมกระตุ้นจีดีพีปีหน้า ดันเปิดประมูลโครงการลงทุน ขนาดใหญ่ มูลค่าเกือบ 2 ล้านล้าน เพิ่มบทบาทไทย
ในเวทีโลก ขอคนรุ่นใหม่ ร่วมเล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เชื่อหลังเลือกตั้งเป็นรัฐบาลผสม แนะ ฝ่ายค้านจับมือฝ่ายรัฐบาลร่วม
พัฒนา ประเทศ พร้อมมั่นใจเศรษฐกิจปีนี้ โตไม่ต่ำกว่า 4%
  • กสทช.แจงนโยบายปีหน้า มุ่งช่วยเหลือทีวีดิจิทัลเต็มรูปแบบ รับประเมินอุตสาหกรรมผิดพลาด หลัง "ดิจิทัล ดิสรัป
ชั่น"รุนแรง ชูคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ของทีวีดิจิทัลโยกประมูลโทรคมฯทำ 5จี ประมูล ก.พ.ปีหน้า เคาะราคาเริ่มต้น 10
เมกะเฮิรตซ์ 1 ใบอนุญาตอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท คาดได้เงินมาอุ้มทีวีดิจิทัลราว 5 หมื่นล้านบาท เชื่อแก้ปัญหาระยะยาว
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ธ.
ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้บรรลุข้อตกลงยุติข้อพิพาทการค้าชั่วคราว
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 4% เมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) ขานรับข่าวผู้นำสหรัฐและ
จีนสามารถบรรลุข้อตกลงในการยุติข้อพิพาททางการค้าชั่วคราว นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนหลังจากนายวลาดิเมียร์ ปูติน
ประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียและซาอุดีอาระเบียได้ตกลงที่จะร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการรักษา
เสถียรภาพตลาดน้ำมัน รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า มณฑลอัลเบอร์ตาของแคนาดาเตรียมลดการผลิตเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันดิบในสต็อกจำนวน
มาก
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบ
กับดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่
ปลอดภัย
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาข่าวสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงยุติการทำ
สงครามการค้าชั่วคราว โดย ณ เวลา 00.14 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ
2.995% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.291%
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เผยการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ในเดือน ต.ค.โดยปรับตัวลง 0.1%
หลังจากที่ลดลง 0.1% เช่นกันในเดือน ก.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ