(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.83 ทรงตัวจากวานนี้ ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 7, 2018 14:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.83 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใน ระดับเดียวกันกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ เนื่องจากตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามา

"บาททรงตัวในระดับเดียวกับเย็นวานนี้ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

วันนี้คาดว่าบาทจะแกว่งตัวแคบๆ ในกรอบ โดยนักบริหารเงินประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.75-32.90 บาท/ดอลลาร์

คืนนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือน พ.ย. ซึ่งจะมีผลต่อค่าเงินบาท ในสัปดาห์หน้า

THAI BAHT FIX 3M (6 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.33940% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.45628%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.7833 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 112.68 เยน/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับเดียวกับเย็นวานนี้
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1375 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1334 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.8180 บาท/
ดอลลาร์
  • กระทรวงพลังงานเร่งประชาพิจารณาร่างพีดีพีฉบับใหม่ให้เสร็จเพื่อนำเสนอ กพช.ในเดือนธันวาคมนี้ หากมีประชุมหรือช้า
สุด ม.ค.62 ยันค่าไฟฟ้าจะไม่สูงไปกว่าแผนเดิม กางกำลังผลิตใหม่พุ่งกว่า 5 พันเมกะวัตต์ โซลาร์ภาคประชาชนผุดหมื่นเมกะวัตต์ จับตา
ภาคใต้วางถ่านหินให้ กฟผ.และ IPP แข่ง 1,000 เมกะวัตต์แต่ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการศึกษา SEA จะสรุปว่ามีหรือไม่ สร.กฟผ.จี้ดู
ความมั่นคงเหตุยังพึ่งพิงก๊าซฯมากไป
  • ธปท.ยันสมาคมธนาคารไทยยังไม่หารือเก็บค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มและหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร
  • 'สมคิด' ยกระดับเอสเอ็มอีเข้าระบบการค้าออนไลน์ ธพว.ชงปล่อยกู้ปลอดดอกเบี้ย รัฐบาลสั่งปล่อยสินเชื่อโชห่วยประชา
รัฐ ยกระดับเอสเอ็มอี ดึงเข้าอี-คอมเมิร์ซ 6 แสนรายปีหน้า
  • คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต คาดทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ว่าอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยยังคงขยาย
ตัวได้ต่อเนื่อง แต่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็นจากโครงสร้างระบบเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรม มีอำนาจผูกขาดสูง ความเหลื่อมล้ำ
สูง เศรษฐกิจฐานรากอ่อนแอด้วยรายได้ไม่เพียงพอและก่อหนี้สูง ปัจจัยความสามารถในการแข่งขันโดยเฉพาะคุณภาพทรัพยากรมนุษย์
อ่อนแอ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองที่มีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 2.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่
สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.0%
  • ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.7% สู่ระดับ 5.55 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่
เดือนต.ค.2551 และเป็นการขาดดุลเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.50 หมื่นล้านดอลลาร์
  • ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ชะลอตัวสู่ระดับ 54.7
ในเดือนพ.ย. จากระดับ 54.8 ในเดือนต.ค.
  • ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น
เพียง 179,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. จากระดับ 225,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการจ้าง
งานภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้น 195,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.
  • หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังพิจารณาว่าควรจะส่งสัญญาณ
ถึงการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าหรือไม่ ในการประชุมนโยบายการเงินซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 18-19 ธ.ค.นี้
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.)
หลังจากข้อมูลที่มีการเปิดเผยล่าสุดบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 1
ปี นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
  • เงินหยวนกลับมาอ่อนค่าลงวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การจับกุมผู้บริหารของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งเป็น
บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน อาจส่งผลให้ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนทวีความรุนแรงมากขึ้น
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้
การร่วงลงอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย., สต็อกสินค้า
คงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดจะประชุมในวันที่ 18-19 ธ.ค.นี้ ขณะที่กระแสคาดการณ์ส่วนใหญ่
บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 4 สำหรับปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ