รมว.คลัง มองศก.ไทยปี 62 โตชะลอ รับผลกระทบปัจจัยภายนอก ชี้การเมืองต้องมีเสถียรภาพดันศก.เดินหน้าต่อ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 12, 2018 09:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ"ทิศทางเศรษฐกิจไทยในปีการเลือกตั้ง 2562"ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4/61 อาจจะยังปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลต่อภาคการส่งออกของไทย ภาคบริการและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน

อย่างไรก็ตาม รมว.คลัง ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังถือว่าค่อนข้างดี การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่องถึง 4 ไตรมาส การบริโภคขยายตัวต่อเนื่องถึง 6 ไตรมาส โดยชี้ว่าถึงเวลาแล้วที่นักลงทุนไทยต้องลงทุนมากขึ้น ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังเชื่อว่าจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น แม้จะยังไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลหลังการเลือกตั้งก็ตาม

"เท่าที่คุยผู้ลงทุนต่างชาติ สิ่งที่เป็นห่วง เขากลัวว่าไม่มีเสถียรภาพซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ เขาจะรอดูว่าสงบหรือไม่แล้วค่อยเข้ามา จึงกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับนักลงทุนต่างชาติ"นายอภิศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ รมว.คลัง มองถึงเศรษฐกิจไทยในปี 62 จะยังสามารถขยายตัวได้เกิน 4% แต่อาจขยายตัวได้น้อยกว่าปีนี้ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ขยายตัว เพราะยังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่แม้ล่าสุดจะสหรัฐ-จีนจะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีการนำเข้าจาก 10% เป็น 25% ไปอีก 90 วัน แต่ปัญหาดังกล่าวยังไม่จบลงง่ายๆ และคาดว่าจะส่งผลกระทบทั่วโลกมากขึ้นในปีหน้า

"สิ่งที่คลังมองเศรษฐกิจปีหน้าโดยรวมเติบโตเกินกว่า 4% แต่น้อยกว่าปีนี้ เหตุผลเนื่องจากนักเศรษฐศาตร์คลังมองว่า ยังเป็นผลจาก Trade War ที่จะส่งผลกระทบมากขึ้น ตลาดโลกจะยังไม่ดี"นายอภิศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามสร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ ส่งเสริมด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และส่งเสริมด้านงานวิจัย รวมถึงการพัฒนาบุคลากรให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก

ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการเป็นสิ่งที่พยายามผลักดันให้เศรษฐกิจไทยมีความเข้มแข็งและเดินหน้าต่อไปได้ สิ่งที่ทำทั้งหมดถือเป็นพื้นฐานเพื่อการต่อยอดในอนาคต ซึ่งทุกคนต้องรู้จักปรับตัวให้ทันต่อเทคโนโลยีและเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงด้วย

นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามและหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการดึงเงินกลับเข้าประเทศ ดังนั้น สิ่งที่จะตามมาคือเงินไหลกลับสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินโลกได้ แต่ประเทศไทยยังมีการบริหารจัดการได้ดี อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ยังมีทุนสำรองในระดับสูง ประกอบกับเงินทุนยังคงไหลเข้ามา จึงทำให้ไทยได้รับผลกระทบน้อยกว่าประเทศอื่น แต่คาดว่าในปี 2562 อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ