ธปท.เผยภาวะเศรษฐกิจไทยผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว จับตาปีหน้าเศรษฐกิจโลกปั่นป่วน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 20, 2018 12:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานเสวนา หัวข้อ"ส่องเศรษฐกิจปี 62"ว่า เศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดสูงสุดของการขยายตัวไปแล้ว และในปีหน้ายังมีอีกหลายปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่อาจจะทวีความรุนแรงมากกว่าในปีนี้, เศรษฐกิจจีนเกิดปัญหา, ความผันผวนจากตลาดการเงินโลกที่กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนและประเทศตลาดเกิดใหม่, ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

"เศรษฐกิจในเรื่องการขยายตัวได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วที่ 4.9% ในไตรมาสแรกปีนี้ และคงจะไม่เห็นอีกแล้ว เพราะปีหน้าเศรษฐกิจโลกจะผันผวนกว่าปีนี้ ทั้งเรื่อง Brexit, สงครามการค้า" นายดอน ระบุ

ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีหน้าลงจากเดิม โดยปี 61 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 4.2% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 4.4% ขณะที่ปี 62 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 4.0% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 4.2% นั้น มองได้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในภาพรวมยังถือว่าไปได้ดี แม้เศรษฐกิจโลกจะเติบโตในอัตราที่ช้าลง โดยในปีนี้เศรษฐกิจไทยได้แรงจากภายในประเทศเป็นสำคัญ ได้แก่ 1.การบริโภคภาคเอกชน เช่น ยอดการจำหน่ายรถยนต์ที่ยังเติบโตได้ดี 2.การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ และการลงทุนโครงการต่างๆ ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 3.แนวโน้มปริมาณนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มกลับมา และจะกลับมาเต็มที่ในปีหน้า 4.เสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยยังเข้มแข็งจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูง 5.ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังเป็นใจ ซึ่งช่วยลดต้นทุนให้กับภาคธุรกิจได้ และ 6.อัตราดอกเบี้ยไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากในรอบนี้

อย่างไรก็ดี สำหรับเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่ขยายตัวได้ 4% ยังถือว่าเติบโตในระดับที่ดีภายใต้ความเสี่ยงที่สูงเมื่อเทียบกับการเติบโตในระดับ 3% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของ ธปท.จำเป็นจะต้องติดตามความเสี่ยงเหล่านี้อย่างใกล้ชิด

"ที่ กนง.มองจีดีพีปีหน้าไว้ที่ 4% นั้นเป็นค่ากลางที่เรามองไว้ ซึ่งก็มีโอกาสที่จะโตน้อยกว่านี้หรือมากกว่านี้ก็ได้" นายดอน ระบุ

สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 62 นายดอน ยอมรับว่า คงคาดเดายากเพราะต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า อีกทั้งเห็นว่าแม้ กนง.จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้แล้ว ไม่ได้หมายความว่ารอบหน้าจะต้องปรับขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ โดยเงื่อนไขที่ กนง.ใช้พิจารณาตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยมาจาก 4 เรื่องสำคัญ คือ 1.อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่ง กนง.มองว่าแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และยังสามารถรองรับต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้งได้ 2.อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งยังอยู่ในกรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน แต่คาดว่าปีหน้าอัตราเงินเฟ้อจะต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง 3.เสถียรภาพระบบการเงิน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมานานจะส่งผลให้เกิดพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า และมีการประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งในจุดนี้เป็นสิ่งที่ กนง.มีความกังวล และ 4.การมีช่องว่างสำหรับการดำเนินนโยบายการเงิน (policy space) ซึ่งมีความเป็นห่วงว่าในอีก 1-2 ปีหน้าอาจจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ในความเห็นส่วนตัวของนายดอน มองว่า ในปีหน้า กนง.คงมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกเพียง 1 ครั้งเท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ