พาณิชย์ เผยโปแลนด์เล็งเปิดสำนักงานการค้าการลงทุนในไทยหวังใช้เป็น HUB สู่อาเซียน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 8, 2019 11:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลสาธารณรัฐโปแลนด์ มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะขยายตลาดการค้าการลงทุนกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ของกลุ่ม ASEAN ไม่ว่าจะเป็น ทางด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน รวมถึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและโลจิสติกส์อีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้นในปี 2562 ประเทศไทยจะก้าวไปสู่การเป็นประธานอาเซียน ทำให้สาธารณรัฐโปแลนด์เล็งเห็นถึงศักยภาพและบทบาทสำคัญของไทยในภูมิภาคนี้ จึงกำหนดแผนที่เปิดสำนักงาน Polish Investment and Trade Agency ที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 เพื่อส่งเสริมและขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนกับไทย และใช้ไทยเป็น Hub สู่อาเซียน ซึ่งคาดว่าสำหรับการเปิดสำนักงานฯ ในครั้งนี้จะมีระดับรัฐมนตรีโปแลนด์เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมจัดคณะผู้แทนการค้าจากภาคเอกชนเดินทางมาเจรจาการค้าในประเทศไทยอย่างเป็นทางการการเยือน พร้อมคณะผู้แทนการค้า

นอกจากการเปิดสำนักงานฯ ในกรุงเทพฯ โปแลนด์เตรียมที่จะจัดพิธีลงนาม MOU ความร่วมมือกับ DITP เพื่อขยายการค้าการลงทุนพร้อมผลักดันและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งนี้ ภาครัฐของสาธารณรัฐโปแลนด์เตรียมขยายกรอบความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในหลากหลายมิติกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งบางส่วนได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว เช่น การลงนามบันทึกความเข้าใจ MOU ว่าด้วยเรื่อง 1) การท่องเที่ยว 2) นวัตกรรม 3) Startups 4) การเกษตร เป็นต้น

DITP เล็งเห็นโปแลนด์เป็น Strategic Partnership และเป็นประตูเชื่อมโยงการค้าการลงทุนสู่ยุโรปตะวันออก และสหภาพยุโรป ภาวะเศรษฐกิจของประเทศโปแลนด์ในภาพรวมปี 2561 GDP มีการขยายตัวสูงร้อยละ 4.3 โดยแรงขับเคลื่อนมาจากการบริโภคของภาคครัวเรือนมีศักยภาพ ปัจจุบัน ผู้มีรายได้ปานกลางของโปแลนด์มีรายได้เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่องซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ การออกแบบและภาพลักษณ์ที่ดี มากกว่าการพิจารณาปัจจัยทางด้านราคาอย่างเดียว ถือเป็นโอกาสในการเข้าสู่ตลาดโปแลนด์ของสินค้าไทยที่มีคุณภาพและการออกแบบที่ดี นอกจากนี้ DITP ยังเล็งเห็นถึงศักยภาพโปแลนด์ในการผลักดันให้ภาคเอกชนเกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกันในสาขาที่โปแลนด์มีความเชี่ยวชาญและมีนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า เกษตรกรรมและเทคโนโลยี โดยเน้นให้เอกชนหาช่องทางในการเข้าไปลงทุนในโปแลนด์

ในขณะเดียวกันก็เชิญชวนให้ภาคเอกชนโปแลนด์เข้ามาลงทุนในโครงการภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะการพัฒนา electro mobility (รถยนต์ไฟฟ้า) ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลโปแลนด์ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งจะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ทั้งฝ่ายโปแลนด์และฝ่ายไทย โดยคาดว่ามูลค่ารวมของโครงการที่เกี่ยวข้องกับสาขานี้จะมีมูลค่ามหาศาลในสิบปีข้างหน้า นอกจากนี้ DITP ยังมีแผนจัดคณะผู้แทนการค้าเข้าร่วมโครงการส่งเสริมนักธุรกิจไทยแสวงหาโอกาสการลงทุนและดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก ซึ่งจะเป็นโครงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในการจัดโครงการดังกล่าวอีกด้วย

สาธารณรัฐโปแลนด์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 46 ของไทยในโลกและเป็นอันดับที่ 13 ในกลุ่มสหภาพยุโรป โดยการค้าของไทยกับโปแลนด์ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา (2559-2560/ ค.ศ. 2015-2017) มีมูลค่าเฉลี่ย ปีละ 670.56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2560 (ค.ศ. 2017) การค้ารวมมีมูลค่า 798.84 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 11.49 โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า 103.86 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการส่งออกสาธารณรัฐโปแลนด์เป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 43 ของไทยและเป็นอันดับที่ 10 จากสหภาพยุโรป

ในระยะ 3 ปี ที่ผ่านมา (2558-2560/ ค.ศ. 2015-2017) การส่งออกของไทยไปยังโปแลนด์มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 408.76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2560 (ค.ศ. 2017) การส่งออกมีมูลค่า 451.33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 16.19 สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เส้นใยประดิษฐ์ อัญมณีและเครื่องประดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ