นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 32.07 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 31.94/96 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.93-32.07 บาท/ดอลลาร์
"ดอลลาร์ถูกซื้อคืนกลับเข้ามาในตลาด ทำให้แข็งค่าเทียบทุกสกุล หลังถูกเทขายมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือน ธันวาคม ขณะที่ตลาดยังรอติดตามเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน การเมืองสหรัฐฯ และคืนนี้จะมีรายงานการประชุมธนาคาร กลางสหรัฐฯ"นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้ระหว่าง 32.00-32.15 บาท/ดอลลาร์
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.89 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 108.55/58 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1442 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1446/1450 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,594.00 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด, +0.08% มูลค่าการซื้อขาย 35,671.26 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,498.49 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ตามที่สำนักงบ
ประมาณเสนอ โดยตั้งวงเงินรายจ่ายไว้จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณขาดดุล 450,000 ล้านบาท เท่ากับปี 62 และประมาณ
การรายได้รัฐบาลสุทธิที่ 2.75 ล้านล้านบาท ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 5.2% ของจีดีพี
การจัดทำงบประมาณดังกล่าวอยู่ภายใต้สมมุติฐานคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยปี 63 ขยายตัวในอัตรา 3.5-4.5% ต่อปี หรือ และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วง 0.8-1.8%
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเลิกการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา
ตามมาตรา 12 (1) ประเภทนักท่องเที่ยว ชนิดใช้ได้ครั้งเดียวเป็นการชั่วคราว ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa
ON Arrival) ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2562 จากเดิมที่มาตรการดังกล่าวมีกำหนดตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2561 ถึง 13 มกราคม
2562
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก คาดว่าทิศทางการส่งออกของประเทศไทยในปี 61
จะเติบโตได้ในกรอบ 7-7.3% ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ 9% และคาดการณ์ปี 62 โต 5% บนสมมติฐานค่าเงินบาทอยู่
ที่ 33.0 (บวก/ลบ 0.5) บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ
- ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 62 ขยายตัวที่ 3.8% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 4% และชะลอตัวจาก
ปีก่อนที่คาดว่าจะเติบโตได้ 4.2% ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจไทยกำลังเข้าสู่ช่วงปลายของวัฏจักรเศรษฐกิจขาขึ้น (late expansion
cycle) ตามภาวะการค้าโลกที่ชะลอตัวลงอันเป็นผลมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศสำคัญที่ชะลอลง ประกอบกับผลกระทบจาก
สงครามการค้าที่ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกของไทยชะลอลงในปีนี้
- เว็บไซต์ของธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนได้เพิ่มการถือครองทองคำสู่ระดับ 59.56 ล้านออนซ์ ณ สิ้นดือ
นธ.ค. 2561 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2559 ท่ามกลางข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีน
และสหรัฐที่กำลังคุกคามต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ
- ผลสำรวจจากเอ็นเอ็นเอ ณ ช่วงสิ้นปี 2561 บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในเอเชียมีแนวโน้ม
ปรับตัวลงในปี 2562 โดยได้รับแรงกดดันจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน