ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.02 แกว่งแคบ ตลาดไร้ปัจจัยใหม่ นลท.รอติดตามผลเจรจาสงครามการค้า-รายงานการประชุมเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 9, 2019 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.02 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยจาก เปิดตลาดเช้าที่ระดับ 32.01 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามแรงซื้อ-ขายดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.99- 32.07 บาท/ดอลลาร์

"บาทตัวเคลื่อนไหวตามแรงซื้อ-ขายดอลลาร์ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

คืนนี้นักลงทุนรอดูการแถลงผลเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED)

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 31.90-32.10 บาท/ดอลลาร์

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 108.93 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.75 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1459 ดอลลาร์/ยูโร ทรงตัวในระดับเดียวกับช่วงเช้า
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,590.50 จุด ลดลง 3.50 จุด, -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 46,576.27 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 772.55 ล้านบาท (SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินว่า ในปี 2562 อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย
น่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 4.0% หรืออยู่ในกรอบประมาณการที่ 4.0-4.3% โดยทิศทางเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลงจากปี
2561
  • สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ในช่วงนี้ธนาคารพาณิชย์ยังคงดูแลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง เชื่อว่าธนาคาร
แต่ละแห่งคงพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงรายได้ ต้นทุนค่าใช้จ่าย และความสามารถในการแข่งขัน
  • สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตั้งเป้าคำขอส่งเสริมการลงทุนปี 62 เงินลงทุน 7.5 แสนล้านบาท
ซึ่งเป็นเป้าหมายใกล้เคียงปี 61

สำหรับในปี 61 ยอดส่งเสริมการลงทุนที่มีมูลค่าลงทุนกว่า 9 แสนล้านบาท จากเป้าหมายที่ 7.2 แสนล้านบาท ถือว่าเกินเป้า ที่วางไว้ โดยเฉพาะในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ถือว่าประสบความสำเร็จ มีมูลค่าขอส่งเสริมการลงทุนขยายตัวได้ มาก

  • กระทรวงต่างประเทศของจีน เปิดเผยว่า จีนได้เสร็จสิ้นการเจรจาการค้ากับสหรัฐแล้ว โดยทางกระทรวงจะออก
แถลงการณ์ชี้แจงผลการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายเร็วๆนี้
  • ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงแตะ 2.9% ในปี
2562 ซึ่งลดลงจากระดับ 3% ในปี 2561 ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยต่างๆ

รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุดระบุว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้มีแนวโน้ม "ชะลอตัวลง" เนื่องจากธนาคารกลางใน หลายประเทศเริ่มหันมาใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน รวมทั้งความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ขณะที่ประเทศรายใหญ่ ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนายังคงประสบปัญหาด้านวิกฤตตลาดการเงิน

  • ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสมาพันธ์จัดหางานและจ้างงาน (REC) และบริษัท KPMG ของอังกฤษ ระบุว่า การจ้างงานใน
อังกฤษในเดือนธ.ค.ขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2560 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจชะลอตัวลงก่อที่อังกฤษจะแยกตัว
ออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
  • อังกฤษมีกำหนดแยกตัวออกจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค. แต่ข้อตกลง Brexit ยังคงมีทิศทางที่ไม่แน่นอน
เนื่องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติอาจออกเสียงคัดค้านร่างข้อตกลงดังกล่าวของนางเทเรซา เมย์ ในการประชุมรัฐสภาสัปดาห์หน้า
  • ผู้จัดการกลุ่มวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกซึ่งเป็นหน่วยงานของธนาคารโลก เตือนว่า ความวุ่นวายที่เกิดจากการที่
อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) นั้น เป็นหนึ่งปัจจัยทางการเมืองที่ถือเป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฎมา
ก่อน โดยคาดว่าไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจอังกฤษเท่านั้น แต่จะรวมถึงเศรษฐกิจยูโรและเศรษฐกิจประเทศโดยรอบที่พึ่ง
พายูโรโซนด้วย
  • ผลสำรวจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นปรับตัวลงในไตรมาส 4/2561
ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น
  • นักลงทุนรอติดตามรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ในการประชุมเมื่อวันที่ 18-19 ธ.ค.ที่ผ่านมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ