นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.97/99 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.94 บาท/ดอลลาร์
ช่วงเย็นนี้ เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยเป็นไปตามทิศทางของค่าเงินสกุลหลักในภูมิภาค โดยปัจจัยสำคัญที่ตลาดจับ ตา คือ มติของรัฐสภาอังกฤษในวันพรุ่งนี้ (15 ม.ค.) จะให้การสนับสนุนร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ตามที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษทำไว้กับผู้นำสหภาพยุโรป (EU) หรือไม่
"คงต้องดูผลเรื่อง brexit พรุ่งนี้ก่อน แต่มองว่าไม่น่าจะผ่าน ซึ่งจะส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า บาทก็อาจจะอ่อน ค่าไประดับ 32 บาทต้นๆ ได้ แต่คงไม่อ่อนไปมาก เพราะโดนกดดันจากปัจจัยเฟดขึ้นดอกเบี้ยด้วย" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.90-32.10 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นเงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.11/14 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.42 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1455/1460 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1467 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,582.57 จุด ลดลง 14.47 จุด (-0.91%) มูลค่าการซื้อขาย 41,570 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,195.36 ลบ.(SET+MAI)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มซื้อขายในกรอบ 31.80-
- บลจ.กสิกรไทย คงมุมมองเป็นบวกสำหรับภาพการลงทุนระยะกลางถึงยาวในตลาดหุ้นไทย จากพื้นฐานเศรษฐกิจไทย
- บลจ.กสิกรไทย คาดทิศทางตลาดหุ้นไทยในปี 62 จะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า ด้วยปัจจัยบวกภายในประเทศอย่าง
- นายเชิง ซงเฉิน นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารกลางจีน (PBOC) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะมีเสถียรภาพหลัง
- สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) ประกาศว่า SAFE ได้เพิ่มวงเงินของโครงการนักลงทุนสถาบัน
- จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐในปี 2561 เพิ่มขึ้น 17.2% จากปี 2560 แตะระดับ 3.233 แสนล้านดอลลาร์ นับ
เป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสองประเทศจะทวีความรุนแรงมากขึ้นก็ตาม ทั้งนี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจใช้ยอดเกินดุลการค้าเป็นข้ออ้างในการกดดันจีนเพิ่มเติม เพื่อลดความไม่สมดุลทางการค้า และ
ดำเนินการกับสิ่งที่สหรัฐฯ มองว่าเป็นการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมกับจีน เช่น การกล่าวหาในเรื่องของการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา