นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.85/86 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.97/99 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทยังมีโอกาสจะแข็งค่าได้ต่อ โดยต้องติดตามกรณีการลงมติของรัฐสภาอังกฤษ ว่าจะให้การสนับสนุนร่างข้อ ตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ เช่น ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนธ.ค. และดัชนีภาคการผลิต เดือนม.ค.จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.80-31.95 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 6M (14 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.74732%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.8650 บาท/ดอลลารื
- ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.40/43 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 108.11/14 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1486/1487 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1455/1.1460 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.957 บาท/
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากสำนักงานศุลกากร
- นักลงทุนจับตารัฐสภาอังกฤษซึ่งจะทำการลงมติต่อร่างข้อตกลง Brexit ในวันนี้ เวลา 20.00-21.00 น.ตาม
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.14%
- ผลการสำรวจของสมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ และบริษัทไพรซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส (PwC) ระบุว่า ปริมาณ
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ดัชนี
ภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนม.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนธ.
ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book
จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การ
ผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน