(เพิ่มเติม) "คณิศ"เชื่อแม้เปลี่ยนรัฐบาลไม่กระทบแผนใน EEC มั่นใจเห็นการลงทุนเพิ่มตั้งแต่ Q2/62 ช่วยหนุน GDP ไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 17, 2019 13:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคออก (สกพอ.) ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "เศรษฐกิจไทยกับการลงทุนในอีอีซี" ในงานสัมมนา "เศรษฐกิจไทยกับการเลือกตั้ง" ว่า แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างแน่นอน เนื่องจาก EEC ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และเป็นตัวที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นอีก 2% จึงเชื่อว่าไม่ว่าจะมีรัฐบาลไหนเข้ามาก็จะเข้ามาดำเนินการโครงการ EEC อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่มองการลงทุนในปีนี้จะเห็นการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นในพื้นที่ EEC โดยคาดจะเห็นความชัดเจนได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป โดยในปี 61 มูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อยู่ที่ 683,910 ล้านบาท

นายคณิศ กล่าวว่า การลงทุนในพื้นที่ EEC ในปีนี้ อยากเห็นการลงทุนของภาคเอกชนกลับไปที่ 10% จากขณะนี้อยู่ที่ 3% หลังการเมืองที่เข้ามามีเสถียรภาพ จะทำให้การลงทุนกลับไปที่เก่าได้

"ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวลงและมีความอ่อนไหวมาก เศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งได้มีการเตรียมกลไกบางอย่าง เพื่อสร้างสมดุลข้างในให้มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการดำเนินโครงการ EEC และการเป็นประธานอาเซียน ที่จะเป็นการสร้างความร่วมมือในประเทศอาเซียน เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก ซึ่งหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้วมีเสถียรภาพ และดูแลการพัฒนา EEC ให้ดี เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4% ต่อปี"

นายคณิศ กล่าวว่า นโยบายการลงทุนในโครงการ EEC ที่ผ่านมาได้มีการปรับโครงสร้างพื้นฐาน โดยเพิ่มกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายจาก 10 อุตสาหกรรม เป็น 12 อุตสาหกรรม ซึ่งอุตสาหกรรมที่เพิ่มเข้ามาใหม่เป็นลำดับที่ 11 คืออุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ และอุตสาหกรรมที่ 12 คืออุตสาหกรรมพัฒนาคนและการศึกษา ขณะเดียวกันก็ทำเรื่องของการท่องเที่ยวและการพัฒนาเมืองใหม่ ให้ครอบคลุมถึงการศึกษาและสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อว่าหากลงทุนได้ตามเป้าหมาย 1.7 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปีนี้ น่าจะมีเงินลงทุนในพื้นที่ EEC เข้ามาเพิ่มเติมอีกประมาณ 1.3 แสนล้านบาทต่อปี จาก 3 แสนล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 2% หรือจากฐานเดิมที่ขยายตัวได้ 4% จะเห็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 5-6%

"EEC จะทำหน้าที่เป็นพื้นที่ตัวอย่างในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 4.0 โดยเราได้วางเป้าหมายการดำเนินงานของ EEC ไว้เป็นในช่วง 5 ปีแรก และช่วง 5 ปีหลัง ซึ่งเชื่อว่าจะเห็นโครงสร้างเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์ โดยมีรถไฟความเร็วสูง และสนามบิน จะเสร็จสิ้นภายในปี 66 หลังจากนั้นอุตสาหกรรมเป้าหมายจะขยายตัวมากขึ้นในช่วง 5 ปีหลัง"

พร้อมกันนี้เป็นที่น่าสนใจว่าประเทศสาธารณรัฐเช็ก ก็มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC ขณะเดียวกันประเทศญี่ปุ่นและจีนก็มีความร่วมมือกัน ที่จะขยายการลงทุนเข้ามาในประเทศที่ 3 โดยมีความสนใจในพื้นที่ EEC และสนใจลงทุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน และการทำเมืองอัจฉริยะ ส่วนความคืบหน้าเมืองการบินภาคตะวันออก น่าจะมีข้อเสนอจากบริษัทใหญ่ๆ เข้ามาภายในเดือนก.พ.นี้ ซึ่งจะได้เห็นการนำสนามบินอู่ตะเภามาใช้ประโยชน์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ