(เพิ่มเติม) ครม.เห็นชอบให้ใช้แนวทางบริหารจัดการดาวเทียมในปท.แบบ PPP แทนสัมปทานหลังสิ้นสุดสัญญา

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 29, 2019 15:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการดาวเทียม หลังสิ้นสุดสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ (ที่กำลังจะสิ้นสุดในปี 2564) ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ โดยจะไม่มีการต่ออายุหรือขยายเวลาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศทุกดวงที่มีอายุทางวิศวกรรมเหลืออยู่หลังสิ้นสุดสัญญา รวมทั้งทรัพย์สินต่างๆ ซึ่งแนวทางในการบริหารจัดการดาวเทียม จะเป็นไปตามแนวทางของ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556

"จะไม่มีการต่ออายุสัญญาดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายอวกาศฯ ได้มีการพิจารณาข้อดีข้อดี และคำนึงถึงผลกระทบต่างๆ แล้ว โดยให้คัดเลือกเอกชน มาบริหารจัดการดาวเทียมสื่อสารในประเทศทุกดวงที่มีอายุเหลืออยู่ รวมทั้งทรัพย์สินต่างๆ ตาม พ.ร.บ.PPP หมายความว่าจะไม่มีการให้ระบบสัมปทานเหมือนเดิมแล้ว" นายพุทธิพงษ์ระบุ

พร้อมกันนี้ ยังเห็นชอบในหลักการให้ บมจ.ไทยคม (THCOM) ดำเนินการเชื่อมต่อระบบขับเคลื่อน เพื่อต่ออายุดาวเทียมไทยคม 5 ซึ่งเป็นหนึ่งในดาวเทียมภายใต้สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ (เนื่องจากดาวเทียมไทยคม 5 จะหมดอายุการใช้งานในช่วงเครึ่งปีแรกของปี 2563 แต่สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศจะสิ้นสุดในปี 2564) โดยการต่ออายุดาวเทียมดังกล่าว ไม่มีผลทำให้อายุของสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศเปลี่ยนแปลงไป และเมื่อสัญญาฯ สิ้นสุดลง ทรัพย์สินต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงดาวเทียมไทยคมที่มีอายุเหลืออยู่ รัฐจะได้คัดเลือกผู้ประกอบการมาบริหารจัดการดาวเทียมและทรัพย์สินดังกล่าว ตามแนวทาง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ต่อไป ซึ่งการต่ออายุดาวเทียมไทยคม 5 จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด

อย่างไรก็ดี จากที่มาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้รัฐต้องรักษาไว้ซึ่งคลื่นความถี่ และสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมอันเป็นสมบัติของชาติ เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ดังนั้น ในการดำเนินนโยบายเกี่ยวกับการบริหารกิจการอวกาศของรัฐบาลจึงต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและประโยชน์ของประชาชน

ส่วนการบริหารจัดการดาวเทียมหลังสิ้นสุดสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลตามที่กล่าวไว้ข้างต้น โดยเห็นควรให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รับไปพิจารณาดำเนินการในเรื่องดังกล่าวด้วยความรอบคอบ เหมาะสม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

สำหรับการขอความเห็นชอบในหลักการให้ บมจ.ไทยคม ดำเนินการเชื่อมต่อระบบขับเคลื่อนเพื่อต่อดายุดาวเทียมไทยคม 5 ซึ่งเป็นหนึ่งในดาวเทียมภายใต้สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศนั้น เห็นควรให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะคู่สัญญาตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ รับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของข้อกฎหมายระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ