นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.40 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.46 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าสุดในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.61 ทั้งนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าตามทิศทางของเงิน หยวน และเป็นการแข็งค่าสอดคล้องกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค แต่เงินบาทแข็งค่ามากสุดเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งในส่วนของ อัตราดอกเบี้ยนั้น เชื่อว่ารอบนี้ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม แต่จับตาเรื่องการปรับลดขนาดงบดุลว่าจะเป็นไปในทิศทางใด
"ถ้าปรับลดงบดุลในขนาดเท่าเดิม คือ 50,000 ล้านดอลลาร์/เดือน ดอลลาร์ก็น่าจะแข็งค่า แต่หากมีการลดน้อยกว่าดอลลาร์ ก็อาจจะอ่อนค่าได้ ตอนนี้ตลาดรอดูในสี่วนนี้ ส่วนเรื่องดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่า FOMC รอบนี้ยังคงไว้เท่าเดิม" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.30-31.50 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 31.4200 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.36 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.40 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1429 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1432 ดอลลาร์/ยูโร
- รมว.คลัง กล่าวถึงค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ว่า เงินบาทไม่ควรแข็งค่านำโด่งประเทศคู่แข่ง
- รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า หากจีนมีข้อเสนอที่ดีพอในการผ่อนคลายข้อกำหนดทางการค้าต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็มี
- นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ใกล้ที่จะบรรลุเป้าหมายในการผลักดันร่างข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพ
- ตลาดการเงิน จับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลา
- นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก
ADP, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัว
เลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนม.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคการผลิตเดือน
ม.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)