นายณิชา ศรีสงวนสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายงานบริหารพื้นที่พาณิชย์ และค้าปลีก บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า โครงการ 101 @True Digital Park เริ่มเปิดให้บริการแบบ Soft opening ไปตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.62 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.62 ปัจจุบันที่ร้นนค้าที่พร้อมเปิดให้บริการแล้ว 85% และในเดือนมี.ค.62 จะมีร้านค้าพร้อมเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 95%
โครงการดังกล่าวเป็นพื้นที่ไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท เป็นรูปแบบไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์พื้นที่รวม 40,000 ตารางเมตร ครบครันด้วยร้านอาหาร ร้านค้า บริการ สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่ออกกำลังกาย รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวรวมกัน 20,000 ตารางเมตร ในส่วนของพื้นที่เช่าค้าปลีกของโครงการ 101 @True Digital Park ทั้งหมดมีพื้นที่ที่ปล่อยให้ร้านค้าปลีกเช่าทั้งหมด 20,000 ตารางเมตร ปัจจุบันมีลูกค้าที่เข้ามาเช่าพื้นที่แล้ว 90% และคาดว่าภายในเดือน มี.ค.จะมีลูกค้าที่สนใจเช่าพื้นที่เข้ามาในส่วนของพื้นที่เช่าที่เหลืออีก 10% จนครบ 100%
อัตราค่าเช่าในโครงการอยู่ที่ 1,200-2,000 บาท/ตารางเมตร/เดือน โดยที่สัญญการเช่าพื้นที่ของลูกค้ามีทั้งสัญญาระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งสัญญาเช่าสูงสุดเป็นระยะเวลา 12 ปี คือ Tops supermarket และบริษัทตั้งเป้าหมายมีลูกค้าเดินทางเข้ามาใช้บริการในโครงการ 101 @True Digital Park เฉลี่ย 40,000-50,000 คน/วัน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นผู้พักอาศัยในคอนโดมิเนียม WHIZDOM 101 และพื้นที่โดยรอบระยะทาง 3-5 กิโลเมตร กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติในย่านนี้ ได้แก่ อังกฤษ สหรัฐฯ จีน และเกาหลี เป็นต้น
กลยุทธ์การตลาดของโครงการ 101 @True Digital Park จะเป็นการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าพักอาศัยและทำงาน ให้เข้ามาทำงาน ทานอาหาร และทำกิจกรรมในโครงการของบริษัทได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่มีร้านอาหารที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง คิดเป็นสัดส่วน 50% ของร้านอาหารทั้งแบรนด์ไทยและต่างชาติในโครงการเปิดให้บริการทั้งหมด 18 ร้าน และจะมีการจัดกิจกรรม Night Market ในบางสัปดาห์ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆตลอดทั้งปี
ส่วนการพัฒนาโครงการ 101 @True Digital Park ในเฟส 2 เนื้อที่ 17 ไร่ จากทั้งหมด 43 ไร่ อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการพัฒนา เบื้องต้นจะมีพื้นที่ใกล้เคียงกับเฟสแรกที่เปิดให้บริการในปัจจุบันที่ 40,000 ตารางเมตร โดยที่พื้นที่ส่วนใหญ่ในเฟสที่ 2 จะเป็นออฟฟิศรูปแบบดิจิทัลฮับที่เจาะกลุ่มผู้เช่าสตาร์ทอัพ Venture capital บริษัทต่างชาติ และหน่วยงานของรัฐ เป็นต้น