ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.32/34 เคลื่อนไหวในกรอบแคบ-ตลาดเงียบช่วงหยุดตรุษจีน คาดกรอบพรุ่งนี้ 31.25-31.40

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 4, 2019 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.29/32 บาท/ดอลลาร์

ตลอดทั้งวันนี้ เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากตลาดเงินทางฝั่งจีนหยุดทำการในเทศกาลตรุษจีน จึงทำให้ตลาด ค่อนข้างเงียบ ขณะที่วันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ที่เข้ามามีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมากนัก

"วันนี้ตลาดเงียบๆ บาทก็วิ่งในกรอบแคบ อาจเป็นเพราะตลาดจีนหยุดทำการช่วงตรุษจีนด้วย" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.25 - 31.40 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.86/90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.58 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1440/1446 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1454/1457 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,653.62 จุด เพิ่มขึ้น 2.22 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 31,742 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,417.22 ลบ.(SET+MAI)
  • กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มซื้อขาย
ในกรอบ 31.15-31.50 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 31.29 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ
9 เดือนครึ่ง ในเดือนมกราคม เงินบาทแข็งค่ากว่า 4% สูงที่สุดในเอเชีย
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการชำระเงินและ
เทคโนโลยีทางการเงิน กับ ผู้ว่าการธนาคารกลางกัมพูชา โดยบรรลุข้อตกลงในการริเริ่มโครงการนำร่องเกี่ยวกับการพัฒนามาตรฐาน
QR Code เพื่อรองรับบริการการชำระเงินในกัมพูชาและการเชื่อมโยงการชำระเงินระหว่างกัมพูชาและไทย เพื่อสนับสนุนการพัฒนา
เทคโนโลยีทางการเงินและการชำระเงินเพื่อส่งเสริมการชำระเงินภายในประเทศและเชื่อมโยงบริการทางการเงินระหว่างประเทศให้มี
ประสิทธิภาพและปลอดภัย รวมทั้งสนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่น
  • TMB Analytics มองว่าในปี 2562 นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ไป
อย่างน้อยอีกครึ่งปี แม้อุปสงค์ในประเทศจะขยายตัวได้ดี เพื่อรอประเมินผลทางเศรษฐกิจจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งล่า
สุดที่ผ่านมา ประกอบกับแรงกดดันจากเงินเฟ้อก็ยังทรงตัวในระดับต่ำจากปัจจัยด้านอุปทาน และค่าเงินบาทที่มีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่อง
  • ธนาคารกลางจีนได้จัดตั้งหน่วยงานแห่งใหม่เพื่อปรับปรุงการกฎระเบียบและควบคุมความเสี่ยงทางการเงิน โดยสำนักงาน
แห่งใหม่นี้ จะรับผิดชอบด้านนโยบายจัดการระดับมหภาคอย่างรอบคอบ อีกทั้งประเมินหน่วยงานด้านทางเงิน จัดทำร่างกฎระเบียบและข้อ
บังคับ และติดตามความเสี่ยงทางการเงิน รวมทั้งดูแลในส่วนของการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เช่น นโยบายแลกเปลี่ยนเงินตรา
ต่างประเทศ และส่งเสริมการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนด้วยสกุลเงินหยวน
  • ผู้แทนสหรัฐด้านเกาหลีเหนือจะเข้าพบกับที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ ที่ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้
เพื่อหารือถึงรายละเอียดของการจัดการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างประธานธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำ
เกาหลีเหนือ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนก.พ.นี้
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนม.ค.จากมาร์กิต,
ดัชนีภาคบริการเดือน ม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือน พ.ย.61, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
รายสัปดาห์
  • สัปดาห์นี้ ตลาดโลกจะให้ความสนใจกับการแถลงนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ และดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ รวมถึงการ
ประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) หลังจากสมาชิกสภาสหราชอาณาจักรไม่สามารถตกลงกันเพื่อเลื่อนกำหนดระยะเวลา Brexit ออก
ไป ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมวันที่ 6 กุมภาพันธ์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ