ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.28/30 แนวโน้มแกว่งในกรอบแคบ รอปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 31.25-31.35

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 7, 2019 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.28/30 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.24 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ซึ่งจากการแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรสของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อ วานนี้ก็ไม่ได้มี effect ต่อตลาดมากนัก ประกอบกับกรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ในการประชุมวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ จึงทำให้วันนี้เงินบาทน่าจะยัง เคลื่อนไหวในกรอบแคบ รอทิศทางตลาดสัปดาห์หน้า หลังจากตลาดเงิน ตลาดทุนของหลายประเทศในภูมิภาคจะกลับมาเปิดทำการปกติ จาก ที่หยุดตรุษจีนกันในสัปดาห์นี้

"บาทวันนี้คงแกว่งแคบๆ เพราะที่ทรัมป์ออกมาแถลงนโยบายประจำปี ก็ไม่ได้มี effect ต่อตลาดมาก กนง.บ้านเราก็คง ดอกเบี้ย และหลายตลาดในภูมิภาคสัปดาห์นี้ก็ยังปิดตรุษจีนกันอยู่" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.25-31.35 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 6M (6 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 1.71527%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.81/82 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.98 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1359/1361 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1400 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.2610 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก
0.25% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ก่อนที่จะหยุดการปรับดอกเบี้ยตลอดปีนี้ หลัง กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ตาม
ที่ตลาดคาด ส่งผลให้เย็นวานนี้ (6 ก.พ.) เงินบาทแข็งค่าและซื้อขายแถวระดับ 31.25 บาท/ดอลลาร์¶
นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทแข็งค่า 4% ด้วยแรงหนุนจากแนวโน้มการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ และเงินบาท
ยังเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาค
  • รมว.คลังห่วงค่าบาทแข็ง จี้แบงก์ชาติต้องติดตามให้ทันสถานการณ์ หวั่นวิกฤตต้มยำยุ้ง กกร.ห่วงค่าบาทหลุด 31 บาทต่อ
ดอลลาร์สหรัฐ เตรียมตบเท้าคุยธปท.
  • สศช.รายงานผลการพัฒนาประเทศรอบ 5 ปี จากปี 2557-2561 พบการพัฒนาเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งขึ้น จีดีพีขยายตัวต่อ
เนื่องมูลค่า จีดีพีเพิ่มจาก 13 ล้านล้านบาท เป็น 16 ล้านล้านบาท ยังต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ ขณะ
ที่การลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่พุ่งสูงถึง 763,165 ล้านบาท การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลังหยุดนิ่งมา 10 ปี ปรากฏว่าตั้งแต่ปี 2557 ถึง
ปัจจุบันมีเงินลงทุน 2.44 ล้านล้านบาท แจงไม่ต้องกังวลหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในวิสัยที่รับได้
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 เดือน
โดยยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 11.5% สู่ระดับ 4.93 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ
5.40 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากแตะระดับ 5.57 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ทั้งนี้ ตัวเลขขาดดุลการค้า ปรับตัวลงจากการลดลงของ
การนำเข้าโทรศัพท์มือถือ และผลิตภัณฑ์น้ำมัน
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะที่ดี และหลักฐานบ่งชี้ว่า จนถึงขณะนี้
เศรษฐกิจยังคงมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรับมือกับผลกระทบต่างๆ อาทิ การตัดสินใจของอังกฤษที่จะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
(Brexit)
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) หลัง
นักลงทุนปรับตัวรับการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์
กล่าวว่า การที่ ปธน.ทรัมป์ระบุย้ำถึงข้อเรียกร้องในการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานนั้น อาจนำไปสู่การกระตุ้นการขยายตัวทาง
เศรษฐกิจ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 4.80 ดอลลาร์หรือ 0.36% ปิดที่
1,314.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลง 4 ติดต่อกัน เนื่องจาก
การแข็งค่าของดอลลาร์ได้ลดความต้องการซื้อทองคำ
  • นักวิเคราะห์จากบริษัทโมเน็กซ์ ยุโรป กล่าวว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายใน
การประชุมวันพรุ่งนี้ เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit), ข้อมูลเศรษฐกิจที่
อ่อนแอของยูโรโซน และตลาดที่อยู่อาศัยที่ชะงักงัน แต่อย่างไรก็ดี BoE อาจส่งสัญญาณการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ