นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมติดตามงานสำคัญของกระทรวงคมนาคมว่า ในช่วงที่การลงทุนจากต่างประเทศรอดูความชัดเจนในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น จึงได้มาเร่งรัดให้กระทรวงคมนามคมผลักดันโครงการลงทุนทุกโครงการให้เป็นไปตามแผน และเห็นผลในช่วงไตรมาส 1 และ 2 นี้ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีให้ช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะเดินหน้าต่อไปได้ดี
ทั้งนี้ นายสมคิด ได้ฝากในส่วนโครงการจัดซื้อเครื่องบินของบมจ.การบินไทย (THAI) จำนวน 38 ลำ ให้ได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนก.พ.นี้ พร้อมกับมอบหมายให้บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. ให้การสนับสนุนการบินไทยอย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับสายการบินอื่นๆ และมอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคมหารือร่วมกับทอท. ให้มีการเร่งรัดการเบิกจ่าย รวมถึงให้มีการเร่งเจรจากับทางแอร์บัส ในการพัฒนาโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา (MRO) ให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว
นายสมคิด ยังได้กล่าวถึง โครงการพัฒนาขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในส่วนของเทอร์มินอล 2 ต้องมีความชัดเจน โดยให้ดำเนินการตามแผนของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งได้มอบหมายให้มีการหารือร่วมกันระหว่างปลัดกระทรวงคมนาคม ทอท. และเลขาสศช. หาข้อสรุปโดยเร็ว ส่วนรันเวย์ให้เริ่มดำเนินการทันที
สำหรับโครงการรถไฟไทย-จีน ได้รับรายงานว่า จะมีการลงนามในสัญญาระยะ 11 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้โครงการเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว ส่วนรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในเส้นสายสีส้ม ให้เกิดการประมูลอย่างโปร่งใส
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการลงทุนต่างๆ ว่า โครงการจัดซื้อเครื่องบินของการบินไทย จำนวน 38 ลำ จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้ และจะเร่งรัดการเจรจาการร่วมทุนกับทางแอร์บัส ในการพัฒนา MRO ให้เร็วขึ้น จากเดิมกำหนดไว้ภายในเดือนมิ.ย.นี้
สำหรับโครงการพัฒนาขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทางทอท.เตรียมนำเสนอการก่อสร้างในส่วนรันเวย์ที่ 3 ซึ่งทางคณะกรรมการ สศช.ให้ความเห็นชอบแล้ว ส่วนโครงการขยายเทอร์มินอล 2 ในส่วนตะวันออก ให้ดำเนินการตามแผนของสศช. และนำเสนอที่ประชุมครม.ต่อไป
ทางด้านการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ขณะนี้มีผู้ขอซื้อซองประมูลรวม 34 ราย จะเร่งสรุปภายในสิ้นเดือนมี.ค.หรือเม.ย.
นายอาคม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีนว่า จะเร่งรัดลงนามสัญญาก่อสร้างที่ 2 ระยะ 11 กิโลเมตรภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ส่วนกลุ่ม 5 สัญญาก่อสร้างจะประกวดราคาให้เสร็จภายในเดือนมี.ค.-เม.ย. และกลุ่ม 7 สัญญาก่อสร้างจะประกวดราคาให้แล้วเสร็จเม.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้มีการประกวดราคาครบทั้ง 252 กิโลเมตรภายในเดือนพฤษภาคมนี้, โครงการรถไฟทางคู่ อยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอครม. จำนวน 8 โครงการ โดยสายแรก ช่วงบ้านไผ่-นครพนม จะนำเสนอภายในเดือนก.พ.-ต้นมี.ค.นี้ ส่วนโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม ผ่านการพิจารณาของคณะกรรม PPP ซึ่งกระทรวงการคลังจะนำเสนอครม.ต่อไป ส่วนสายสีแดง จะนำเสนอพร้อมกันทั้ง 3 ช่วง ในเส้นทางรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา และ ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ส่วนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในเส้นพระราม 3- ดาวคะนอง จะประกวดราคาในเดือนก.พ.นี้
นอกจากนี้ จะมีการนำเสนอแผนฟื้นฟูของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เข้าสู่ที่ประชุมครม.เดือนมี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นแผนจัดหารถรุ่นใหม่ทั้งแบบ NGV ไฮบริด และอีวี ประมาณ 2,700 คัน
ทั้งนี้นายอาคม กล่าวว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือการขึ้นภาษีรถยนต์เก่าเกิน 7 ปี เรื่องนี้ทางกระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งวันนี้หารือเฉพาะในเรื่องการเร่งรัดการลงทุนเท่านั้น