พาณิชย์ เร่งส่งเสริมผู้ประกอบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง ช่วยลดต้นทุน-ขั้นตอนการส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 22, 2019 16:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดสัมมนาหัวข้อ "เพิ่มขีดความสามารถการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง (Self-Certification)" เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ประกอบการหันมาใช้สิทธิประโยชน์จากการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองมากยิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ลดขั้นตอนการส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการแล้ว ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการส่งออกสินค้าไปยังภูมิภาคอาเซียน รวมถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์อีกด้วย

"การจัดสัมมนาดังกล่าว นอกจากจะได้ความรู้เรื่องการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองแล้ว ผู้เข้าร่วมสัมมนายังได้รับความรู้ด้านการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้า หรือตรวจต้นทุนการผลิต รวมถึงวิธีปฏิบัติในการกรอกข้อมูลในระบบตรวจคุณสมบัติด้านถิ่นกำเนิดของสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (ROVERs) ซึ่งเป็นระบบที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ ในการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าได้ด้วยตนเองก่อนการยื่นขอ Form อีกด้วย" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศระบุ

นอกจากนี้ กรมฯ จะมีการสุ่มตรวจสอบผู้ประกอบการที่ได้ยื่นขอต้นทุน และผู้ประกอบการที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ASEAN Self-Certification และ REX System รวมถึงการตรวจสอบรายการสินค้าเฝ้าระวังที่ประเทศผู้นำเข้าได้มีมาตรการทางการค้า โดยการตรวจสอบดังกล่าว จะมีทั้งการให้ผู้ประกอบการแสดงต้นทุนการผลิตและการตรวจสอบ ณ สถานประกอบการ เพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมแก่ผู้ประกอบการ หากมีการตรวจสอบย้อนหลังจากประเทศผู้นำเข้า ตลอดจนเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทยจากการหลบเลี่ยงมาตรการทางการค้าที่ประเทศผู้นำเข้าดำเนินการกับสินค้าส่งออกจากประเทศที่สาม (Circumvention)

สำหรับการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองเพื่อส่งออกไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์และนอร์เวย์ ภายใต้ระบบที่เรียกว่า REX System (Swiss/Norway) ผู้ประกอบการสามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองเพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) แทนการใช้ Form A ซึ่งกรมฯ ได้ยุติการออก Form A ไปสองประเทศดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.61 เป็นต้นมา

ปัจจุบัน การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยด้วยตนเองในกลุ่มอาเซียน (ASEAN Self-Certification) ได้รวมโครงการนำร่องในการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทั้ง 2 โครงการ (Pilot Project) เข้าด้วยกันเป็นโครงการเดียว เรียกว่า ASEAN Wide Self-Certification หรือ AWSC เพื่อช่วยขยายมูลค่าการค้าในกลุ่มประเทศอาเซียนมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่า AWSC จะมีผลบังคับใช้ในเดือนมี.ค.63

นายอดุลย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้ได้รับสิทธิรับรองตนเองภายใต้ระบบ ASEAN Self-Certification แล้ว 326 ราย มูลค่าการส่งออกในปี 2561 มีมูลค่า 2,547 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 39% จากปี 2560 สำหรับการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองในระบบ REX System มีผู้ขึ้นทะเบียน 433 ราย มูลค่าการส่งออกในปี 2561 มีมูลค่า 363 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนี้ กรมฯ มีแผนจะจัดสัมมนาให้ความรู้ เพื่อส่งเสริมการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองไปยังภูมิภาคต่างๆ โดยในเดือนมิถุนายน 2562 กำหนดจัดสัมมนาที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเดือนสิงหาคม 2562 ที่จังหวัดสงขลา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ