พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน ระยะที่ 1 ซึ่งเป็นระยะเร่งด่วน และมาตรการเยียวยาเจ้าของเรือประมงจำนวน 305 ลำที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายรองรับระเบียบ IUU Fishing (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing) ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จำนวน 4 ฉบับ ด้วยการจ่ายเงินชดเชยรวม 764 ล้านบาท
สำหรับครั้งนี้ ครม.อนุมัติให้ใช้งบกลางรายการเงินสำรองกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 469 ล้านบาท เพื่อชดเชยให้กับเรือประมงจำนวน 252 ลำ ซึ่งได้รับผลกระทบจากคำสั่งหัวหน้า คสช. ตลอดจนมาตรการแก้ไขปัญหา IUU ไม่เคยทำผิดกฎหมายของกรมประมง กรมเจ้าท่า และแรงงาน, เป็นเรือประมงตามบัญชีที่ผ่านการตรวจสอบของคณะทำงานแล้ว, เป็นเรือประมงที่ผ่านการประเมินสภาพตามความเป็นจริง, เป็นเรือประมงที่อยู่ในบัญชีรายชื่อพร้อมราคาชดเชยที่ผ่านความเห็นชอบของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว, กรณีที่ตรวจพบในภายหลังว่าเรือประมงลำใดมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนจะไม่ได้รับการชดเชย
โดยการจ่ายเงินชดเชยแบ่งเป็นงวดๆ งวดแรก 30% ของวงเงินชดเชยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแยกชิ้นส่วนเรือประมง และงวดที่สองอีก 70% ของวงเงินชดเชยเมื่อเจ้าของได้แยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือประมงเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดเงื่อนไขว่าผู้ขอรับการชดเชยจะไม่กลับไปทำประมงผิดกฎหมายอีก
สำหรับค่าชดเชยเรือประมงส่วนที่เหลือ 53 ลำ จะเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเพิ่มเติมว่า ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบการทำลายเรือประมงว่าเป็นไปตามหลักการหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาการนำเรือประมงลำเก่ามาขอรับเงินชดเชยอีก
"โครงการนี้จะช่วยให้สามารถบริหารจัดการกองเรือได้เหมาะสมกับปริมาณสัตว์น้ำที่มีอยู่ เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน ไม่ให้ปัญหาเก่าย้อนกลับมาอีก" พล.ท.วีรชน กล่าว