น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้จัดทำโครงการสร้างศักยภาพทางการตลาดสินค้าข้าว เพื่อขยายโอกาสการส่งออกข้าวไทยในตลาดโลก ภายใต้แคมเปญ "Think RICE, Think THAILAND : We Serve the Best Quality Rice to the World." เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทย ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นในตลาดโลก และสร้างการตระหนักรับรู้ในเรื่องภาพลักษณ์และคุณสมบัติที่ดีของข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทย กระตุ้นความต้องการใช้พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดการขายข้าวในเชิงสร้างสรรค์โดยเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Valued Creation) และสร้างโอกาสในการส่งออกข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าวไทยไปสู่ตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น
แคมเปญนี้จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของข้าวไทย ความหลากหลายของพันธุ์ข้าวไทย มาตรฐานข้าวไทย ตลอดจนการนำข้าวมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทย ตอกย้ำให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ และสร้างการจดจำโดยจัดทำเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของสารคดีสั้น จำนวน 7 เรื่อง 8 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี สเปน อาหรับ และภาษาไทย พร้อมทั้งนำเสนอบทความและบทสัมภาษณ์ จำนวนกว่า 30 เรื่อง ผ่านสื่อออนไลน์กว่า 100 เว็บไซต์ทั่วโลกรวมถึง YouTube และ Facebook : Think Rice Think Thailand รวมถึงเผยแพร่ทางนิตยสารชั้นนำของโลก อาทิ The Economist, What’s on Dubai , Wine & Dine, New York Times Chinese และ Food Network ของสหรัฐอเมริกา ตลอดจนการจัดทำสกู๊ปพิเศษแนะนำเมนูที่ทำมาจากข้าวไทยผ่าน Asia Food Channel
"ยังได้คิกออฟแคมเปญด้วยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อบนเครื่องบิน ได้แก่ สื่อ Inflight entertainment ในทุกๆ เที่ยวบินของการบินไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคม - พฤษภาคม พร้อมลงบทความในนิตยสารสวัสดี และนิตยสาร Travel 3 Sixty ของสายการบินแอร์เอเชีย รวมถึงจอ LED ใน 14 สนามบินทั่วประเทศ หวังเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาต่อเครื่องและเข้ามาในประเทศไทย รวมทั้งผู้บริโภคต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย"
กระทรวงพาณิชย์ยังได้เชิญ Bloggers/Influencers จากแวดวงอาหาร/ท่องเที่ยว/สุขภาพระดับโลกมาเยือนประเทศไทย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกับข้าวไทยสัมผัสเมนูอาหารไทยสุดพิเศษตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารคาว น้ำซุป เครื่องปรุงรส และขนมหวานโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านข้าวและอาหารไทยซึ่งสร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก โดย Bloggers/Influencers เขียนรีวิวผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทยผ่านช่องทางออนไลน์ให้กว้างขวางไปสู่ตลาดโลกอีกทางหนึ่งด้วย
น.ส.ชุติมา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเทรนด์การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งข้าวไทยสามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ข้าวไทยมีหลากหลายพันธุ์ที่ให้คุณค่าทางโภชนามากมาย อาทิ ข้าวกล้องงอก ที่มี กาบา ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลาง และความจำเสื่อม ข้าวไรซ์เบอร์รี่ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล วิตามินอี แทนนิน รวมถึงธาตุสังกะสีและโฟเลต ข้าวสินเหล็ก มีปริมาณธาตุเหล็กสูง ซึ่งพบว่าการส่งเสริมให้ผู้ที่มีภาวะพร่องธาตุเหล็กรับประทานข้าวสินเหล็กจะช่วยให้ระดับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีข้าว กข43 ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมประชาสัมพันธ์เข้าสู่ตลาดต่างประเทศในขณะนี้ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นข้าวขาว พื้นนิ่มที่มีค่าการแตกตัวเป็นน้ำตาลน้อยและมีค่าดัชนีน้ำตาลปานกลางค่อนไปทางต่ำ คาร์โบไฮเดรตของข้าวมีลักษณะที่ทนต่อการย่อยได้ดีกว่าข้าว อมิโลสต่ำพันธุ์อื่น ถือเป็นข้าวทางเลือกของผู้ใส่ใจสุขภาพและเข้ากับวิถีคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี
ปัจจุบันรัฐบาลยังได้มีนโยบายส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ สนับสนุนการให้ชาวนาใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพ เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานด้านสุขอนามัย เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีความปลอดภัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้สารเคมีอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยสามารถพัฒนาต่อยอดข้าวไทยให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและใส่ใจในสุขภาพมากยิ่งขึ้น อาทิ อาหารพร้อมรับประทาน ในรูปแบบถ้วย/ซอง/กระป๋อง ซุปข้าวพร้อมรับประทาน โจ๊กข้าวกล้อง ซีเรียลบาร์ อาหารเพื่อสุขภาพ อย่างเช่น น้ำนมข้าวออร์แกนิค น้ำมันรำข้าวสกัดเย็น ผงข้าวกล้องสกัดพร้อมชงดื่ม อาหารเสริมจากน้ำมันรำข้าว
รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหาร (Non-Food) สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมข้าวของโลก อาทิ เครื่องสำอาง ในรูปแบบครีมบำรุงผิวหน้าจากสารสกัดจากสเต็มเซลข้าว เซรั่มข้าว แชมพู/ครีมนวดผมผสมสารสกัดจากข้าวสังข์หยด ผงล้างหน้าจากข้าว สบู่ข้าว และ วัสดุทางการแพทย์ แผ่นห้ามเลือดจากแป้งข้าว วัสดุแปะแผลจากเส้นใยนาโนเซลลูโลสจากข้าว ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าทางการตลาดได้กว่า 2 พันเท่า