นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.68 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 31.73 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก หลังค่าเงินตลาดเกิดใหม่ ได้รับปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าการเจรจาข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่มีแนวโน้มคลี่คลาย ประกอบกับตัวเลขทางเศรษฐกิจ ของจีนออกมาดีเกินกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
"บาทแข็งค่าจากเมื่อเย็นวันศุกร์ เนื่องจากความคืบหน้าเรื่องสงครามการค้า ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออก ดีเกินคาด" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.60 - 31.75 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงิน บาทช่วงนี้ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ ส่วนปัญหาการเมืองในประเทศหลังการเลือกตั้งนั้นตลาดให้ความสำคัญลดลง
THAI BAHT FIX 6M (29 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.74265%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.6975 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 111.09 เยน/ดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 110.79 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1226 ดอลลาร์/ยูโร จากสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 1.1224 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 31.8050 บาท/ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (1-5 เม.ย.) ที่ 31.60-32.00 บาทต่อ
ดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาประเด็นทางการเมืองในประเทศ กระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ และตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในเดือนมี.ค.
ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ทางออกของข้อตกลง BREXIT และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนี PMI ภาค
การผลิตและภาคบริการ เดือนมี.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดค้าปลีก และรายจ่ายด้านการก่อสร้าง ในเดือนก.พ.
- ธปท.จับตาหนี้ครัวเรือนพุ่ง หวั่นฉุดความสามารถชำระหนี้ของภาคครัวเรือน หากภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม พร้อมเดินหน้าตรวจ
สินเชื่อรถยนต์ของแบงก์ต่อเนื่อง ก่อนประเมินว่าจำเป็นต้องออกมาตรการคุมหรือไม่ ด้านศูนย์วิจัยกสิกรเกาะติดกลุ่มรายได้ต่ำ 8 พันบาท
พบภาระหนี้สูงถึง 50% ของรายได้
- TMB ประเมินส่งออกไทยปีนี้โตโคม่า เหลือ 1.5% หลังเศรษฐกิจโลกดิ่ง พ่วงความไม่แน่นอนจากปัญหาสงครามการค้าและ
สินค้าโภคภัณฑ์ถ่วงหนัก คาดสินค้ากลุ่มรถยนต์-ชิ้นส่วนยานยนต์คอมพิวเตอร์-อิเล็กทรอนิกส์-เครื่องใช้ไฟฟ้าและอาหาร โตชะงักที่ 2.8%
จากปีก่อนโตแรง 5.5%
- นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เปิดเผย แนวโน้มการส่งออกว่า ปัจจัยที่กดดันการส่งออกในขณะนี้คือสงครามการค้า
ระหว่างสหรัฐ-จีนที่อาจกระทบทำให้บรรยากาศการค้าโลกไม่สดใส กับปัจจัยความผันผวนของเงินบาท โดยเฉพาะเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งปีที่
ผ่านมาแข็งค่าประมาณ 5% พร้อมคาดว่าหากเงินบาท แข็งค่าต่อเนื่องจะฉุดความสามารถการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่
ได้จะกระทบการส่งออกสินค้า เกษตร ประมง ฯลฯ
- สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้เห็นแนวโน้มคนไทยเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อ
เนื่อง เป็นผลมาจากสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนบริษัทนำเที่ยวลดลง และต้นทุนการท่องเที่ยวของคนไทยที่เดินทางไปต่าง
ประเทศก็ลดลง 10% โดยทีทีเอเอ คาดว่าคนไทยเดินทางไปต่างประเทศในปีนี้ประมาณ 10.9-11 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.5-10% คิดเป็นราย
จ่ายที่ต้องสูญเสียไปจากการท่องเที่ยวของคนไทยประมาณ 330,000 ล้านบาทต่อปี
- กรมธนารักษ์อยู่ในระหว่างการจัดทำราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ หลังจากมีการประเมินที่ดินรอบสุดท้ายตั้งแต่ปี 2559 ที่ผ่าน
มา โดยการประเมินที่ดินรอบนี้จะพิจารณาเป็นรายแปลงสำหรับที่ดินที่มีโฉนดถูกต้อง และที่ดินซึ่งได้รับหนังสือรับรองทำประโยชน์ให้กับผู้ที่
ครอบครอง หรือที่เรียกว่า นส.3 ซึ่งคาดว่าจะมีทั้งหมดราว 34-36 ล้านแปลง
- หอการค้าห่วงการเมืองสูญญากาศ 2 เดือนกระทบธุรกิจ เสนอ "ประยุทธ์" ใช้อำนาจเต็มบริหารก่อนส่งไม้ต่อ นายกฯ
ใหม่ ด้าน ส.อ.ท.ชี้ยื้อตั้งรัฐบาลใหม่ส่อกระทบเชื่อมั่นลงทุน เสี่ยงข้าราชการเกียร์ว่าง "หอค้าต่างประเทศ" ยันต่างชาติยังไม่ถอนลงทุน
เหตุมองระยะยาว ขณะนักเศรษฐศาสตร์ หวั่นการเมืองกดดันลงทุนเอกชน หวังรัฐบาลใหม่จัดตั้งเร็ว มีเสถียรภาพ
- ส.อ.ท.แย้มเตรียมยื่นสมุดปกขาวเสนอต่อรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งหวังขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต 4
อุตสาหกรรมที่จัดทำไว้เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี หวังยกระดับเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งอุตฯ เกษตรแนว
ใหม่ อุตฯ ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต
- ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) เปิดเผยข้อมูลเมื่อวานนี้ ระบุว่า ยอดขายผ่านระบบอีคอม
เมิร์ซทั่วโลกในปี 2560 ขยายตัว 13% สู่ระดับประมาณ 29.37 ล้านล้านดอลลาร์ นำโดยยอดขายในสหรัฐ ญี่ปุ่น และประเทศพัฒนาแล้ว
อื่นๆ
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 667,000
ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 636,000 ยูนิตในเดือนม.ค.
- มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 โดยดีดตัวสู่
ระดับ 98.4 ในเดือนมี.ค. สูงกว่าระดับในช่วงกลางเดือนมี.ค.ที่ 97.8 หลังจากแตะระดับ 93.8 ในเดือนก.พ.
- รมว.คลังสหรัฐ และผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้เสร็จสิ้นการเจรจาการค้ากับจีนแล้ว และการหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์
- นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด โดยสำนักงานสถิติ
แห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน อยู่ที่ระดับ 50.5 ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น
จาก 49.2 ในเดือนก.พ.
ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน อยู่ที่ระดับ 54.8 ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.3 ในเดือนก. พ.