ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.72 แกว่งในกรอบ หลังตลาดขาดปัจจัยใหม่ นลท.รอดูตัวเลขศก.สำคัญของสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 3, 2019 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 31.72 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 31.75 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.70-31.78 บาท/ดอลลาร์

"ระหว่างวันเงินบาทวิ่งอยู่ในกรอบที่ให้ไว้ 31.70-31.80 บาท/ดอลลาร์ ยังรอปัจจัยใหม่ๆ ซึ่งคืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจที่ สำคัญของสหรัฐ คือ การจ้างงานของภาคเอกชนและ ISM ภาคบริการ และอีกทีคือการจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนวันศุกร์" นักบริหาร เงิน กล่าว

นักบริหารเงิน กล่าวว่า ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้ระหว่าง 31.65-31.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.47 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 111.46 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1245 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1225 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,649.06 จุด ลดลง 2.42 จุด, -0.15% มูลค่าการซื้อขาย 44,246.76 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 15.14 ลบ.(SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี
62 มาเป็น 3.7-4.0% จากเดิมคาดไว้ที่ 4.0-4.3% หลังจากคาดว่าการส่งออกอาจขยายตัวประมาณ 3.0-5.0% ต่ำกว่าเดิมที่คาดไว้ใน
ระดับ 5.0-7.0% ส่วนมุมมองต่ออัตราเงินเฟ้อยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 62 จะอยู่ที่ 0.8-1.2%
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2/2562
ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มี.ค.62 โดย กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อรอประเมินผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ให้ชัดเจน
ขึ้น และเห็นว่าการลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินในช่วงต่อไปยังจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลด้วยการผสมผสานเครื่องมือเชิง
นโยบายที่หลากหลาย ทั้งการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสม ควบคู่กับการใช้มาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน
(macroprudential) และมาตรการกำกับดูแลรายสถาบันการเงิน (microprudential)
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมรัฐมนตรี
คลังอาเซียน ที่ จ.เชียงราย ที่ประชุมจะได้หารือร่วมกันถึงประเด็นความเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยในส่วนของการ
เชื่อมโยงภาคการเงินระหว่างกันนั้น ประเทศไทยจะเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาระบบการชำระเงินร่วมกันในอาเซียน หรือ QR Code ASEAN
ซึ่งจะเริ่มนำร่องในการใช้ภายในกลุ่มประเทศ CLMV ด้วยกันเองก่อน (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม)
  • ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า 4 ใน5 ของคนไทย (78%) พยายามใช้เงินผ่านช่องทางดิจิทัลเพียงอย่าง
เดียวในชีวิตประจำวัน ซึ่งสูงขึ้นกว่าปี 2560 ที่มีเพียง 50%
  • ไฟแนนเชียล ไทม์ส (FT) รายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนที่กำลังเจรจาข้อตกลงการค้า ได้ทำการแก้ไขประเด็น
สำคัญๆส่วนใหญ่แล้ว แต่ยังคงมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับวิธีการบังคับใช้ข้อตกลงดังกล่าว
  • ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาของเอเชีย
จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 5.7% ในปี 2562 ซึ่งลดลงจากระดับ 5.9% ในปี 2561 เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกชะลอตัวลง และผลกระทบจาก
ความตึงเครียดด้านการค้า
  • ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาขาด
ดุลการค้า แต่กลับจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศที่นำมาตรการดังกล่าวมาใช้
  • รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเริ่มการเจรจาการค้ารอบใหม่กับเจ้าหน้าที่สหรัฐที่กรุงวอชิงตันในวันนี้ โดยทั้งสองฝ่ายพยายาม
ผลักดันการทำข้อตกลง เพื่อยุติความขัดแย้งทางการค้าที่ยืดเยื้อ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ